tag:blogger.com,1999:blog-17406515213173547952024-03-02T08:06:56.138+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยว วิธีทำก๋วยเตี๋ยวรวมข้อมูลเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวสำหรับท่านที่สนใจอยากเปิดร้านหรือซื้อแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวkomohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.comBlogger89125tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-15519774422670581132013-06-07T22:17:00.001+07:002013-06-07T22:17:17.657+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ <div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6n5nYZBmFlufgi5Gunsx_QH9lTvP7UMip1Qz0kKgruWyHrTWgqXzMPBpmxQ1FXX8NxX8txCWxwST5CkjyN1ZxXj4lhn-8P0587rKZm60kCpjUse_xBPj61YTlKdQr5U1HA485tqXuRhs/s1600/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%9F.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="168" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6n5nYZBmFlufgi5Gunsx_QH9lTvP7UMip1Qz0kKgruWyHrTWgqXzMPBpmxQ1FXX8NxX8txCWxwST5CkjyN1ZxXj4lhn-8P0587rKZm60kCpjUse_xBPj61YTlKdQr5U1HA485tqXuRhs/s320/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%9F.jpg" width="320" /></a></div>
<b><br /></b>
<b>ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ </b>สำหรับ 4 คน<br />
<b>ส่วนผสม</b><br />
1. เส้นก๋วยเตี๋ยว 1/2 กก.<br />
2. ปลาหมึกแช่ 1/2 ตัว<br />
3. เต้าหู้ขาวแข็ง 1 แผ่น<br />
4. น้ำมันพืช 1 1/2 ถ้วย<br />
5. ผักบุ้งไทยหั่นท่อนสั้นๆประมาณ 1 นิ้ว 2 กำ<br />
6. ลูกชิ้นปลา 15 ลูก<br />
7. ฮื่อก๊วยหั่นชิ้นบางๆ 1/2 ท่้อน<br />
8. เลือดหมูหั่นลูกเต๋าขนาดครึ่งนิ้ว 1 ก้อน<br />
9. กระเทียมเจียว 1/4 ถ้วย<br />
10. ต้นหอมซอย 1/4 ถ้วย<br />
11. ผักชีซอย 1/4 ถ้วย<br />
12. <a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2009/09/blog-post_08.html" target="_blank">น้ำซุปกระดูกหมู</a> 8 ถ้วย<br />
<br />
<b>ซอสเย็นตาโฟ</b><br />
1. เต้าหู้ยี้ 2 ก้อน<br />
2. ซอสแดง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
3. น้ำกระเทียมดอง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
4. น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ<br />
5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
<b>วิธีทำ</b><br />
1.ทำซอสเย็นตาโฟโดยบี้เนื้อเต้าหู้ยี้ให้ละเอียดในถ้วย จากนั้นใส่ซอสแดง น้ำกระเทียมดอง น้ำต้มสุกและน้ำตาล คนให้เข้ากัน พักไว้<br />
2. ล้างปลาหมึกให้สะอาด ผ่าแบะตัวปลาหมึกออก บั้งเนื้อด้านในเป็นตาตาราง หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอคำ ใส่จาน พักไว้<br />
3. หั่นครึ่งเต้าหู้ตามขวาง จากนั้นหั่นแต่ละชิ้ป็นแผ่นบางให้ได้ 4 ชิ้น ใส่เต้าหู้ลงทอดในกระทะน้ำมันร้อนไฟกลางจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ใส่จานพักไว้<br />
4. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวและผักบุ้งในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงจนสุก ใส่ลงในชาม<br />
5. ลวกปลาหมึก ลูกชิ้นปลา ฮื่อก๊วย และเลือดหมูใส่ตามลงไป<br />
6. ใส่เต้าหู้ทอด ราดด้วยซอสเย็นตาโฟ โรยกระเทียมเจียว ต้นหอม และผักชี ตักน้ำซุปใส่ เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2013/06/blog-post_7.html" target="_blank">ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ</a>ร้อนๆ<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-58538752417631131432013-06-03T20:38:00.000+07:002013-06-03T20:38:03.550+07:00สูตรหมี่กรอบต้มยำ<b>ส่วนผสม</b><br />
1. บะหมี่ 1 ถุง<br />
2.เนื้อหมูติดมันสับ 100 กรัม<br />
3. น้ำมันพืชสำหรับทอด 3 ถ้วย<br />
4. ถั่วงอก 2 ถ้วย<br />
5. น้ำซุปหมูตุ๋น 2 ถ้วย<br />
6. กระเทียมเจียว 1/4 ถ้วย<br />
7. ต้นหอมซอย 3 ต้น<br />
8. ผักชีซอย 2 ต้น<br />
9. ผักบุ้งทอดกรอบ และเกี๊ยวกรอบ<br />
<br />
<b>เครื่องปรุงรสต่อชาม<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/" target="_blank">ก๋วยเตี๋ยว</a></b><br />
น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา<br />
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ<br />
ถั่วลิสงคั่วบด 2 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
<b>วิธีทำสูตรหมี่กรอบต้มยำ</b><br />
1.ทำหมูบะช่อก่อน โดยต้มน้ำ 1/4 ถ้วย ในหม้อใบเล็กด้วยไฟกลาง พอเริ่มเดือดใส่หมูสับ คนให้เนื้อหมูสุก และกระจายไม่รวมกันเป็นก้อน ปิดไฟ<br />
2.ตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนกระทั่งน้ำมันร้อน จึงขยุ้มบะหมี่ให้กระจายฟูเป็นก้อนกลม ใส่ลงทอดทีละน้อยจนเหลืองกรอบทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน<br />
3. ลวกถั่วงอกในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงจนสุก พักไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว<br />
4. ทำน้ำต้มยำโดยแบ่งน้ำซุปออกมา 1/2 ถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล พริกป่น และถั่วลิสงคั่วให้ออกรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ตามชอบ<br />
5. ใส่บะหมี่ที่ทอดลงในชามก๋วยเตี๋ยว ตามด้วยน้ำต้มยำทีปรุงรสให้มีน้ำขลุกขลิก ใส่หมูบะช่อ โรยกระเทียมเจียว ต้นหอม และผักชี เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2013/06/blog-post.html" target="_blank">หมี่กรอบต้มยำ</a>ร้อนๆ<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh_DN7_99_CpsBV1KKKy58vOilegJ_PlK-Opq9d6p0hMJ2b9X-17jAL5iyA14lUm7l-9MQ3LLh1l_hHWd5MHwm2E_Fd6H9pno6KKqc7eX4IiKgxkiCaRGk55cHycp5-OPCW8iv_bBfFt98/s1600/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="207" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh_DN7_99_CpsBV1KKKy58vOilegJ_PlK-Opq9d6p0hMJ2b9X-17jAL5iyA14lUm7l-9MQ3LLh1l_hHWd5MHwm2E_Fd6H9pno6KKqc7eX4IiKgxkiCaRGk55cHycp5-OPCW8iv_bBfFt98/s320/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-36827930867879359392013-05-26T13:51:00.004+07:002013-05-26T13:51:59.831+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ<b>ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ</b><br />
<b>ส่วนผสม</b><br />
1.ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 2 ขีด<br />
2.ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
3.น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย<br />
4.เนื้อวัวสับจนละเอียด 200 กรัม<br />
5.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ<br />
6.ผงกะหรี่ 1/4 ช้อนโต๊ะ<br />
7.แป้งมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
8.กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
9.น้ำ 1/2 ถ้วย<br />
10.ตั้งฉ่าย 1 ช้อนโต๊ะ<br />
11.น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
12.ไข่ไก่ 2 ฟอง<br />
13.ผักกาดหอม 1 ต้น<br />
14.ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ 2 ต้น<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2013/05/blog-post_26.html" target="_blank">ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ</a></b><br />
1. คลี่เส้นก๋วยเตี๋ยวในชามเพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นแผ่น ใส่ซีอิ๊วดำเคล้าจนเส้นเป็นสีน้ำตาล พักไว้<br />
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะด้วยไฟแรงจนร้อน ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดเร็วๆ จนทั่ว ตักขึ้นพักไว้<br />
3. เคล้าเนื้อวัว ซีอิ๊วขาว ผงกะหรี่ แป้งมัน ให้เข้ากันในอ่างผสม หมักนาน 10 นาที<br />
4. ตั้งกระทะน้ำมันที่เหลือด้วยไฟกลางจนร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ตามด้วยเนื้อวัวที่หมัก ผัดให้เนื้อวัวกระจาย ไม่รวมกันเป็นก้อน จากนั้นใส่น้้ำ ตังฉ่าย ปรุงรส ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ<br />
5. ทอดไข่ดาว แล้วตักเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผัดใส่จาน รองด้วยผักกาดหอม แล้วราดด้วยเนื้อสับที่ผัด วางไข่ดาวลงข้างๆ โรยขึ้นฉ่าย เพียงเท่านี้ก็จะได้ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับไว้ทานร้อนๆ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEha1EUgUrTUHYt1UhkyF4QEim3eQ6GAfofePIR1uudMEOp06updmRahxx3RbCySsObR4MlgXtq4E9uifzCXHml-9VyIVscBI8tbaPTiZC4Fe_yF_CdfHXWwcNqKDRLRSc2TqUeI_TgzZ1s/s1600/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9A.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEha1EUgUrTUHYt1UhkyF4QEim3eQ6GAfofePIR1uudMEOp06updmRahxx3RbCySsObR4MlgXtq4E9uifzCXHml-9VyIVscBI8tbaPTiZC4Fe_yF_CdfHXWwcNqKDRLRSc2TqUeI_TgzZ1s/s320/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9A.jpg" width="263" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-53409606118436677392013-05-22T19:53:00.003+07:002013-05-22T19:53:51.342+07:00ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก สูตรอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ<br />
ก๋วยเตี๋ยวอนุสาวรีย์เป็นที่รู้จักกันดีว่าอร่อย และคนนิยมกินกันเป็นสิบๆ ชาม เนื่องจากขายชามเล็กๆ ชามละ 10 บาท ลองเอาสูตรไปทำ แล้วปรับขนาดเครื่องปรุงได้ตามความเหมาะสม<br />
<br />
<b>ส่วนผสม</b><br />
1. เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 หยิบมือ<br />
2. <a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2009/09/blog-post_08.html" target="_blank">น้ำซุปกระดูกหมู </a>1 ถ้วย<br />
3. ผักบุ้งไทยหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว 1/4 ถ้วย<br />
4. เนื้อหมูสันนอกหั่นชิ้นบาง 6-7 ชิ้น<br />
5. กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ<br />
6. ต้นหอมซอย <br />
7. ผักชีซอย <br />
8. เลือดหมูสด 1 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
<b>เครื่องปรุง </b><br />
พริกน้ำส้ม (พริกขี้หนูเขียวแดงบดผสมน้ำส้มสายชู) 1 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
<b>วิธีทำ</b><br />
1. ต้มน้ำซุบในหม้อให้เดือดด้วยไฟกลาง เตรียมไว้<br />
2. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวกับผักบุ้งในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงจนสุก ใส่ลงในชามก๋วยเตี๋ยว แล้วลวกเนื้อหมูในหม้อน้ำซุบจนสุก ใส่ตามลงไป ใส่พริกน้ำส้ม น้ำตาล น้ำปลา โรยกระเทียมเจียว ต้นหอม และผัก จากนั้นใช้กระบวยตักเลือดหมูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จุ่มลงในหม้อน้ำซุปที่เดือดด้วยไฟแรงขึ้นกระบวย พอเลือดสุกตักใส่ชามก๋วยเตี๋ยว พอมีน้ำขลุกขลิก เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2013/05/blog-post.html" target="_blank">ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก สูตรอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ</a>ร้อนๆ<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjYHgIspNEADYp2RRsxd0CA6HzFeJtLlx93qwu0rC6y2KxCjA56TdIDHyc3YwBsxCNq_5HEh9g83x5SRC5oEHQf82aDWlPYZmuhThll8VrpXZ5JL-5mBBfKpZ11kl6Zy4dKRsC96W4D_68/s1600/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%81+%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="156" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjYHgIspNEADYp2RRsxd0CA6HzFeJtLlx93qwu0rC6y2KxCjA56TdIDHyc3YwBsxCNq_5HEh9g83x5SRC5oEHQf82aDWlPYZmuhThll8VrpXZ5JL-5mBBfKpZ11kl6Zy4dKRsC96W4D_68/s320/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%81+%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-29945280201219752262012-10-29T23:37:00.000+07:002012-10-29T23:37:08.493+07:00บะหมี่ราดหน้าเซี่ยงไฮ้<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFzQ_3c10kJw9aa_THHqaxXL5DTaiHhVdLMwcuF6xZGQNxKbinV2CtXHjg9WDu9FKQ7xA-chNF9vOrGlDThIdee6Qy5qY5KtbQfOCQ4UHFIkKsFeSABpgQRCx9XZHbQJFHZ0p0w_Sz4Ak/s1600/pic+%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%89.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="บะหมี่ราดหน้าเซี่ยงไฮ้" border="0" height="182" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFzQ_3c10kJw9aa_THHqaxXL5DTaiHhVdLMwcuF6xZGQNxKbinV2CtXHjg9WDu9FKQ7xA-chNF9vOrGlDThIdee6Qy5qY5KtbQfOCQ4UHFIkKsFeSABpgQRCx9XZHbQJFHZ0p0w_Sz4Ak/s320/pic+%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%89.jpg" title="บะหมี่ราดหน้าเซี่ยงไฮ้" width="320" /></a></div>
<br />
บะหมี่ราดหน้าสูตรนี้สามารถทำแบบทั้งใช้บะหมี่ทอดกรอบหรือบะหมี่ลวกสุกนิ่มๆ ก็ได้ แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งส่วนผสมและเครื่องปรุง เหมาะสำหรับ 2 คน แต่ถ้าจะทานมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็สามารถลดหรือเพิ่มส่วนผสมได้ค่ะ<br />
<br />
<b>เครื่องปรุงและส่วนผสม</b><br />
1.บะหมี่ 4 ก้อน<br />
2.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ<br />
3.กระเทียมสับ 1 ช้อนโด๊ะ<br />
4.เนื้อหมูหั่นชิ้นพอคำ 1 ขีด<br />
5.กุ้งแกะเปลือกไม่ผ่าหลัง 6 ตัว<br />
6.เห็ดฟางผ่าครึ่ง 6 ดอก<br />
7.น้ำซุปกระดูกหมู 1 1/2 ถ้วย<br />
8.ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
9.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา<br />
10.ต้นหอมหั่นท่อนขนาด 1 ซม. 3 ต้น<br />
11.แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ<br />
12.น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ<br />
13.น้ำมันกระเทียยมเจียวเล็กน้อยสำหรับคลุกเส้น<br />
14.พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า<br />
15.ต้นหอมหั่นเฉียงและพริกชี้ฟ้าสีเหลืองหั่นฝอยสำหรับตกแต่ง<br />
16.เครื่องปรุงรสมี น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกชี้ฟ้าสีเหลืองหั่นแว่นดองน้ำส้มสายชู พริกป่น<br />
<br />
<b>วิธีทำ</b><br />
1. ขยุ้มบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากกันและแป้งที่เส้นหลุดออกบ้าง ใส่ลงในตะแกรงแล้วลงลวกในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงโดยใช้ตะเกียบโหย่งบะหมี่จนสุกนำขึ้นผ่านน้ำเย็นเพื่อล้างเอาแป้งที่เกาะเส้นหลุดออกอีกครั้งจนหมด นำไปลวกอีกครั้ง นำขึ้นใส่ชามเตรียมไว้ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน<br />
2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอมใส่เนื้อหมู กุ้ง ผัดพอสุก ใส่เห็ดฟางน้ำซุปกระดูกหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาล ผัดพอทั่วใส่ต้นหอม เมื่อเดือดอีกครั้งจึงละลายแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันกับน้ำใส่ จัดจนแป้งสุกใสและมีลักษณะข้น ปิดไฟ<br />
3. ตักบะหมี่ที่ลวกแล้วใส่ชาม ตักน้ำราดหน้าใส่ โรยพริกไทย ตกแต่งด้วยต้นหอมหั่นเฉียงและพริกชี้ฟ้าสีเหลืองหั่นฝอย เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2012/10/blog-post_29.html" target="_blank">บะหมี่ราดหน้าเซี่ยงไฮ้</a>ร้อนๆ กับเครื่องปรุงรส<br />
<br />
<br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-49595627624747691242012-10-19T12:35:00.003+07:002012-10-19T12:35:56.121+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาน้ำข้น<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjLP5-DRfxrN3v9GmCiHGz48XYToA1byDsb1B7CBF0zFDJETZq_To6E7eY0Dip95oki3stShb0FQ-Z6Lav53-O4jJo4_mk5GEl4Kj5_vZtXg1DBa_cs-wyWKnex8e1WRkXHwvXntGZwg6U/s1600/pic_%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%99.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="สูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาน้ำข้น" border="0" height="176" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjLP5-DRfxrN3v9GmCiHGz48XYToA1byDsb1B7CBF0zFDJETZq_To6E7eY0Dip95oki3stShb0FQ-Z6Lav53-O4jJo4_mk5GEl4Kj5_vZtXg1DBa_cs-wyWKnex8e1WRkXHwvXntGZwg6U/s320/pic_%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%99.jpg" title="สูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาน้ำข้น" width="320" /></a></div>
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลา ต้มยำน้ำข้นใช้นมข้นจืด เผ็ดหอมด้วยน้ำพริกเผา ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาสูตรนี้มีเคล็ดลับนิดนึงคือ ต้องปิดไฟก่อนแล้วจึงใส่นมข้นจืด เพื่อป้องกันไม่ให้นมจับตัวกันเป็นก้อน ซึ่งส่วนผสมและเครื่องปรุง เหมาะสำหรับ 2 คน แต่ถ้าจะทานมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็สามารถลดหรือเพิ่มส่วนผสมได้ค่ะ<br />
<br />
<b>ส่วนผสม</b><br />
1.น้ำซุปกระดูกหมู 1/2 ถ้วย<br />
2.ข่าสด 4 แว่น<br />
3.ตะไคร้ซอย 2 ต้น<br />
4.เนื้อปลากะพง 100 กรัม<br />
5.เห็ดฟางผ่าครึ่ง 4 ดอก<br />
6.น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ<br />
7.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ<br />
8.น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ<br />
9.นมข้นจืด 1/4 ถ้วย<br />
10.ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือเส้นใหญ่ หรือเส้นหมี่ แล้วแต่ชอบ 2 ขีด<br />
11.ลูกชิ้นปลา 10 ลูก<br />
12.ฮื่อก๊วยหั่น 8 ชิ้น<br />
13.ใบผักชีสำหรับตกแต่ง<br />
<br />
<b>วิธีทำ</b><br />
1. ต้มน้ำซุปกระดูกหมูด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ต้มต่อพอเดือด ใส่เนื้อปลากระพง เห็ดฟาง ต้มพอสุก<br />
2. ปรุงรสด้วยน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว คนพอทั่ว พอเดือดก็ปิดไฟ ใส่นมข้นจืด คนให้เข้ากัน<br />
3. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวในน้ำเดือดที่ใช้ไฟแรง เมื่อสุก ใส่ชาม แล้วลวก ลูกชิ้นปลา ฮื่อก๊วย ตักใส่ชามเดียวกัน<br />
4. ตักน้ำต้มยำใน ข้อ 2 ใส่ โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลา</a>ร้อนๆ<br />
<br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-24219095431766908472012-09-04T16:08:00.001+07:002012-09-04T16:08:39.016+07:00ผัดหมี่กรอบ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtkTMwf4RrvV0ImteE5W4TU5hL9I5L1IeOlvn3QHYJPDxJkHDJGsmwFx4hnklWGAIkr9eK1KAsQ60fNdffdWHF5R3Crie7x2c0pgmPQsCd-4d8EXPLNLQfXUTZ1zentcz8DzNEe8E84No/s1600/images.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="181" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjtkTMwf4RrvV0ImteE5W4TU5hL9I5L1IeOlvn3QHYJPDxJkHDJGsmwFx4hnklWGAIkr9eK1KAsQ60fNdffdWHF5R3Crie7x2c0pgmPQsCd-4d8EXPLNLQfXUTZ1zentcz8DzNEe8E84No/s200/images.jpg" width="200" /></a></div>
<i>หมี่กรอบ</i>นั้นทำจากบะหมี่เหลือง ซึ่งวิธีการทำหมี่กรอบให้อร่อย คือ<br />
1. ใช้มือขยำเส้นให้กระจายออกจากกัน พร้อมกับเขย่าเพื่อให้แป้งนวลที่จับเส้นอยู่หลุดออกให้มากที่สุด เพราะเมื่อนำเส้นบะหมี่ไปทอดแล้วจะฟูกรอบเป็นเส้นไม่ติดกัน<br />
2. ตั้งกระทะน้ำมันร้อนจัด แล้วใส่เส้นลงไป เมื่อเส้นเริ่มเหลืองให้ตักขึ้น เพราะเส้นจะค่อยๆสุก ถ้าให้เหลืองเข้ม ตักขึ้นมาจะขม กินไม่อร่อย<br />
3. พักให้เส้นสะเด็ดน้ำมันหรือซับน้ำมันออกให้มากที่สุด<br />
4. เมื่อเส้นเย็น เก็บใส่ถุงปิดปากถุงให้สนิทไม่ให้โดนอากาศ จะเก็บไว้ได้นานหลายวัน โดยไม่เหม็นหืน<br />
เมื่อเราทราบวิธีทำหมี่กรอบแล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีทำผัดหมี่กรอบสูตรอร่อยกันค่ะ<br />
<br />
<b>ส่วนผสมและเครื่องปรุ</b>ง สำหรับ 2 คน<br />
1. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ<br />
2. หมี่กรอบ 4 ก้อน<br />
3. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
4. เนื้อหมูหั่นชิ้น 1 ขีด<br />
5. ผักกวางตุ้งลวกแล้วหั่นท่อน 1 นิ้ว 2-3 ต้น<br />
6. น้ำปลา 1 ช้อนชา<br />
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา<br />
8. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา<br />
9. พริกไทยป่นนิดหน่อย<br />
<br />
<b>วิธีทำผัดหมี่กรอบ</b><br />
1. ตักกระทะน้ำมันจนร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม แล้วใส่เนื้อหมู ผัดพอสุก ใส่ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล และซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ<br />
2. จัดหมี่กรอบลงจานแล้วราดด้วยเครื่องที่ผัดไว้ โรยหน้าด้วยพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อม พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู<br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-64909662970227315482012-06-29T20:23:00.001+07:002012-06-29T20:26:39.546+07:00เทคนิคน่ารู้ เคล็ดลับสำหรับสูตรก๋วยเตี๋ยวต่างๆ<br />
การทำก๋วยเตี๋ยวจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ขึ้นอยู่กับว่ามีใครรู้เทคนิคการทำที่จะช่วยให้<i>สูตรก๋วยเตี๋ยว</i>นั้นๆ ทำได้เร็ว อร่อย ได้มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นบทความนี้ เราจึงนำเทคนิคและเคล็ดลับเกี่ยวกับการทำก๋วยเตี๋ยวมาฝากกัน<br />
<b><br /></b><br />
<b>เคล็ดลับเทคนิคน่ารู้คู่สูตรก๋วยเตี๋ยวที่ 1. </b><br />
<b><i>สูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว</i>หมูที่อร่อย</b><br />
เครื่องปรุง<br />
1. กระดูกหมูขาตั้ง 3-4 ดุ้น<br />
2. รากผักชี 1 กำมือ<br />
3.กะหล่ำปลีหัวพอดีๆ 2 หัว<br />
4. มะระจีนผ่าครึ่ง เอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้น ๆ 2 ผลใหญ่<br />
5. กระเทียมทุบพอแตก 5 หัว<br />
6. เม็ดพริกไทยดำทุบพอแตก 2 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
<b>วิธีทำ</b><br />
1. เอากระดูกหมูทั้งหมดมาล้างให้สะอาด แล้วเอาไปลวกในน้ำเดือด เสร็จแล้ว วางบนเขียงทุบกระดูกหมูให้แตกเสียก่อนเอาไปต้มทำน้ำซุป ทำไมเราต้องทุบ? เพราะว่าในกระดูกหมูจะมีไขกระดูกที่จะไหลออกมาได้มากถ้าเราจัดการทุบมันก่อนต้ม น้ำซุปที่ได้จะหวานหอมกว่าไม่ได้ทุบ<br />
2. ตั้งน้ำ 1 หม้อ พอเดือด เอากระดูกหมูในข้อ 1 ลงไปต้ม เคี่ยวไปเรื่อยๆ ในระหว่างนั้น ก็เอารากผักชีมาล้างให้สะอาด มัดด้วยตอกหรือเชือกที่สะอาด ใส่ลงไปในหม้อซุป<br />
3. ใส่กะหล่ำปลีผ่าซีกลงไป เพื่อเพิ่มความหวานหอมของน้ำซุป<br />
4. ใส่มะระจีนที่ล้างหั่น ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วลงไปในหม้อ<br />
5. เอากระเทียมทุบ เมล็ดพริกไทย ใส่ลงไป<br />
6. เคี่ยวน้ำซุปนี้ ด้วยไฟอ่อนๆ ให้เดือดไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วน้ำซุปก็เสร็จเรียบร้อย นำไปปรุงเป็นน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ได้เลย<br />
<br />
<b><i>สูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว </i> เนื้อที่อร่อย ไม่เหม็นคาว</b><br />
<b>เครื่องปรุง </b><br />
1. กระดูกวัว 4 ท่อน<br />
2. เหง้าข่าแก่ ทุบพอแตก 100 กรัม<br />
3. อบเชยเป็นชิ้นๆ ยาว 2 นิ้ว 1 ชิ้น<br />
4. รากผักชีมัดรวมกัน 100 กรัม<br />
5. เกลือป่น ½ ถ้วยตวง<br />
6. กานพลู 10 ดอก<br />
7. ใบกระวาน 5 ใบ<br />
8. น้ำตาลกรวดบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ<br />
9. ซอสถั่วเหลืองปรุงรสอย่างดี 2 ถ้วยตวง<br />
10. ซีอิ้วขาวอย่างดี 2 ถ้วยตวง<br />
11. กระเทียมทุบ 5 หัว<br />
12. เมล็ดพริกไทยดำโขลกหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ<br />
13. น้ำสะอาด 1 หม้อก๋วยเตี๋ยว<br />
<br />
<b>วิธีทำ</b><br />
วิธีทำก็คล้ายๆ กับน้ำซุปกระดูกหมู คือ เอาน้ำสะอาดใส่ลงไปในหม้อก๋วยเตี๋ยว ตั้งไฟ เคี่ยวกระดูก รวมกับเครื่องปรุงต่างๆ ให้เดือด แล้วลดไฟให้เดือดอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ สักสองชั่วโมง หากน้ำแห้ง ก็เติมน้ำอีกให้ได้ระดับเดิม<br />
<br />
<b>เคล็ดลับเทคนิคน่ารู้คู่<i>สูตรก๋วยเตี๋ย</i>วที่ 2. เนื้อสัตว์ ผัก คู่ชามก๋วยเตี๋ยว</b><br />
1. การทำหมูบะช่อก็มีความสำคัญ เช่นกัน มิฉะนั้นรสชาติอาจจะไม่เต็มร้อยก็ได้ ซึ่งในบล็อกนี้ก็ได้อธิบายไว้แล้ว<br />
<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/search/label/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2" target="_blank">การทำหมูบะช่อให้อร่อย</a><br />
2. ควรลวกเนื้อหมูไว้ก่อนหรือไม่ คำตอบคือ เนื้อหมูที่ผ่านความร้อนแล้ว เมื่อทิ้งไว้นานๆ จะแห้ง แข็งรับประทานไม่อร่อย ดังนั้น เราควรเอาเนื้อหมูมาแล่เป็นชิ้นๆ เอาแช่เย็นไว้ เมื่อจะปรุงก๋วยเตี๋ยวจึงเอาเนื้อหมูสดนั้นมาลวกพอสุก แล้วใส่ในก๋วยเตี๋ยวจะสดอร่อยกว่าเป็นไหนๆ<br />
3. ตับหมู ก็เช่นกัน ควรลวกเดี๋ยวนั้น กินเดี๋ยวนั้น จะอร่อยที่สุด แต่การเลือกตับอ่อนก็มีเทคนิคเหมือนกัน คือ ตับหมูที่เลือกจะต้องอ่อน ไม่ผิดปกติ ไม่แข็ง สังเกตง่ายๆ คือ เวลาเอามีดตัดจะเห็นเมือกสีน้ำตาลจากตับหมูติดมากทั้ง สองข้าง<br />
4. ไส้หมูอ่อน ผู้ที่จะนำไส้หมูมาเป็นเครื่องปรุงในชามก๋วยเตี๋ยว จะต้องต้มให้เปื่อยเสียก่อน ถ้าไม่ต้ม แต่เอาไปลวกสดๆ เลย จะเหนียวมาก เคี้ยวแล้วฟันอาจจะหลุดติดออกมาได้ วิธีการต้ม นั้น จะต้องล้างให้สะอาด แล้วเอาไส้หมูอ่อนทั้งพวง มามัดหัว และท้ายด้วยเชือกเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่อยู่ภายในไหลออกมาหมด จากนั้นเอาส้อมจิ้มไส้หมูอ่อนหลายๆ ที่ เพื่อกันไม่ให้ไส้ระเบิดออกมาเวลาต้ม ไส้หมูที่ได้จะจืดชืดไม่อร่อย<br />
5. เนื้อเปื่อย เนื้อเปื่อยที่พูดถึงคือเนื้อวัว นั่นเอง ซึ่งวิธีการเคี่ยวคือ เอาชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ๆ ใส่ลงไปทั้งก้อนในหม้อต้ม เอาขึ้นตั้งไฟ ซึ่งแบบเดิมเค้าจะเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ เป็นเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่วิธีนี้จะเสียเวลามากและสิ้นเปลืองเงินด้วย ดังนั้น มีผู้รู้ท่านบอกว่า ให้จัดการเร่งไฟให้น้ำเดือดพล่านทันที แล้วเอาก้อนน้ำแข็งหนักประมาณ 2 กิโลกรัมใส่ลงไปในหม้อ หม้อจะหยุดเดือดทันที เราก็ปล่อยเอาไว้อย่างนั้น จนกระทั่งเริ่มเดือดขึ้นมาอีกครั้ง จนกระทั่งน้ำเดือดพล่าน ลดไฟให้เดือดอ่อนๆ เคี่ยวไปสักชั่วโมง ก็เปิดฝาเอาไว้จน กระทั่งเย็น เนื้อจะเปื่อยพอดี ใช้การได้ ไม่เปลืองแก๊สด้วย<br />
6. ผักต่างๆ ที่จะเอามาใช้ต้องใหม่ และสด มีความกรอบ เพื่อให้คงความหวานจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด<br />
<br />
<b>เคล็ดลับเทคนิคน่ารู้คู่<i>สูตรก๋วยเตี๋ยว</i>ที่ 3. การลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว</b><br />
ท่านๆ สังเกตมั้ยว่า ทำไมเวลาเราสั่งก๋วยเตี๋ยวทานที่ร้าน กับซื้อมาทานที่บ้าน มันถึงไม่อร่อยเท่ากัน ทั้งๆ ที่ก็เป็นร้านเดียวกัน แม้ว่าบางคนจะกลับมาลวกเส้นเองที่บ้าน นั่นเป็นเพราะว่าเทคนิคในการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว<br />
เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ดี รสชาติดี น่าทาน จะต้องมีคุณภาพ ไม่เปื่อยยุ่ย เส้นต้องเหนียว และมีความนุ่มนวลผสมผสานกันไปด้วย<br />
การลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวนั้น จะต้องลวกด้วยเวลาอันรวดเร็วในน้ำเดือดเท่านั้น ไม่ใช่ลวกในน้ำร้อนที่ไม่เดือด <br />
การลวกให้เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ลงไปในที่ลวก ซึ่งมีลักษณะโปร่ง เพื่อให้น้ำร้อนๆ เข้าไปแทรกซึมในเส้นก๋วยเตี๋ยวได้อย่างดี เมื่อจุ่มเส้นก๋วยเตี๋ยวนั้นควรที่จะเอาตะเกียบมาคนที่เส้นก๋วยเตี๋ยวให้กระจายตัวออกจากกัน ไม่ใช่ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งปึก และเวลาเอาขึ้นมาจากน้ำที่ลวกก็จะต้องให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน ในกรณีที่จะเอาไปปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง<br />
เวลาที่ใช้ในการลวก ใช้แค่ 5-7 วินาทีเท่านั้น เพราะถ้านานเกินไป เส้นจะเปื่อย ยุ่ย<br />
<br />
<b>เคล็ดลับเทคนิคน่ารู้คู่สู<i>ตรก๋วยเตี๋ยว</i>ที่ 4. การลวกเส้นบะหมี่ และเกี๊ยว ให้นุ่มอร่อย</b><br />
การลวกเส้นที่ดี จะต้องเอาเส้นบะหมี่ที่เป็นก้อนๆ มากระจายออกเสียก่อน ที่จะเอามาใส่ในที่ลวก จุ่มในน้ำเดือดหม้อก๋วยเตี๋ยว เขย่าไปมาในน้ำเดือด เอาตะเกียบคนเส้นบะหมี่ให้กระจายตัวออกจากกัน เพื่อให้น้ำเดือดซึมเข้าไปให้เส้นบะหมี่สุกดี<br />
จากนั้นรีบเอาขึ้นมาจากน้ำเดือด แช่ในน้ำสะอาด ซึ่งน้ำนี้อาจใส่ชามหรือกะละมังไว้ก็ได้ แช่ให้บะหมี่เย็นนิดหน่อย แล้วสะบัดให้สะเด็ดน้ำ แล้วปรุง เป็นก๋วยเตี๋ยวสูตรต่างๆ ได้<br />
เกี๊ยวนั้น เมื่อเอาแผ่นเกี๊ยวมาห่อหมูบะช่อที่เป็นไส้เกี๊ยวแล้ว ให้ต้มโดยใส่ลงไปในน้ำเดือด ซึ่งเมื่อเราหย่อนเกี๊ยวลงไปแล้ว จะเห็นว่า เกี๊ยวจะจมอยู่ก้นหม้อ สักพักจะลอยขึ้นมา แสดงว่าสุกแล้ว ให้ตักออกโดยใช้ที่ตักที่เป็นตะแกรง สะบัดให้สะเด็ดน้ำก่อนที่จะเอามาทำเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง หรือเกี๊ยวแห้ง<br />
<br />
<b>เคล็ดลับเทคนิคน่ารู้คู่<i><a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2012/06/blog-post.html" target="_blank">สูตรก๋วยเตี๋ยว</a></i>ที่ 5 เครื่องปรุงรสก๋วยเตี๋ยว</b><br />
ก๋วยเตี๋ยวนั้นส่วนใหญ่เมื่อพ่อค้า แม่ค้าส่งมาให้ เราก็จะปรุงอีกครั้งเพื่อให้แซบถูกใจเรา ซึ่งก็ต้องใช้เครื่องปรุงที่ร้านเตรียมไว้ให้ นั่นเอง ดังนั้น ถ้าพ่อค้าแม่ค้า จัดเตรียมเครื่องปรุงที่ดี มีคุณภาพให้ลูกค้า ลูกค้าก็ย่อมประทับใจและเกิดการบอกต่อๆ กันไป ตัวอย่างการเตรียมเครื่องปรุงที่ดี เช่น<br />
<b>รสเค็ม</b> -น้ำปลา ต้องเป็นน้ำปลาแท้ รสชาติดี ซีอิ้วขาว ซอสถั่วเหลือง ต้องใช้อย่างดี<br />
<b>รสเปรี้ยว</b>-ถ้าใช้น้ำมะนาวได้ก็จะดีเยี่ยม แต่ถ้าไม่สะดวกก็อาจจะใช้น้ำส้มสายชูกลั่นก็ได้ แต่ต้องได้มาตรฐานด้วย<br />
<b>รสหวาน</b>-ถ้าใช้น้ำตาลทรายไม่ฟอกก็จะดีมาก<br />
<b>ถั่วลิสงคั่ว</b>- ส่วนมากเพื่อความสะดวกจะซื้อที่ตลาดที่เค้าทำกันไว้เป็นถุงๆ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าเค้าทำกันวันไหน ปีไหน รสชาติย่อมไม่อร่อย บางทีอาจจะเหม็นหืน ที่สำคัญคือ เต็มไปด้วยเชื้อรา ถ้าจะให้ดี ควรจะคั่วถั่วลิสงเองใหม่ๆ สดๆ เสียเวลาเพิ่มนิดหน่อย แต่ประหยัดกว่า และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ดีกว่า<br />
<b>รสเผ็ด-</b>พริกแห้งป่น ง่ายและสะดวกถ้าไปซื้อที่ตลาด แต่ก่อนจะซื้อหยุดคิดนิดว่า เป็นพริกล้วนหรือไม่ ป่นไว้นานแค่ไหนแล้ว ทางที่ดีคือ ซื้อพริกแห้งไปป่นเอง ได้รสชาติเผ็ดถึงใจ แม้ใส่นิดเดียว<br />
<br />
<div style="text-align: center;">
*********</div>
<div style="text-align: left;">
ครั้งหน้าเราจะเอาเคล็ดลับอื่่นๆ ที่ผู้ชื่นชอบการทำอาหารรวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวน่าจะทราบมานำเสนอเพิ่มเติม เพื่อให้สูตรก๋วยเตี๋ยวนั้นๆ อร่อยยิ่งขึ้น</div>
<br />komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-40012327058067545962012-05-21T19:29:00.002+07:002012-05-21T19:30:24.288+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้เห็ดหอม<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiKN4M7B4fcZRixSMcekSud1Psn1V9uBjcGbxejIgrm3iquHBsQedP54dm0oKBIwsyEdpmp8SQY5RYV1rQTBBTAzPN25Qgml-mAw0fgzIHZIKLUTkLju1nzwAXHO5h2wQAfqwWEsEp9YF4/s1600/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%89.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img alt="สูตรก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้เห็ดหอม" border="0" height="254" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiKN4M7B4fcZRixSMcekSud1Psn1V9uBjcGbxejIgrm3iquHBsQedP54dm0oKBIwsyEdpmp8SQY5RYV1rQTBBTAzPN25Qgml-mAw0fgzIHZIKLUTkLju1nzwAXHO5h2wQAfqwWEsEp9YF4/s320/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%89.jpg" title="" width="320" /></a></div>
<i>ก๋วยเตี๋ยวสูตรนี้</i>มีสูตรเด็ดที่กลิ่นรสหอมหวานของเห็ดหอม การเลือกใช้เห็ดหอมนั้นให้ใช้เห็ดหอมจีนดอกใหญ่ เนื้อหนา ทำเป็นเห็ดหอมที่เมื่อปรุงรสแล้วจะได้เห็ดหอมที่เนื้อนุ่มชุ่มน้ำเครื่องปรุงรส กลิ่นหอม ทำกันครั้งละมากๆ ได้ เพราะเก็บไว้ได้นาน <br />
<br />
<b>เครื่องปรุงและส่วนผสม<i>สูตรก๋วยเตี๋ยว</i>เซี่ยงไฮ้เห็ดหอม</b><br />
เห็ดหอมปรุงรสหั่นชิ้นหรือทั้งดอก1 ดอก<br />
ผักกาดขาว 1/4 ต้น<br />
ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ 100 กรัม<br />
เนื้อหมูส่วนสะโพกต้มหั่นชิ้นบาง 50 กรัม<br />
ตับหมูหั่นชิ้นบาง 50 กรัม<br />
หัวใจหมูหั่นชิ้นบาง 50 กรัม<br />
กระเพาะหมูตุ๋นหั่นชิ้นพอคำ 1/2 อัน<br />
น้ำซุปกระดูกหมู 2 ถ้วย<br />
ผักชีซอย 1 ต้น<br />
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา<br />
<br />
<b>เห็ดหอมปรุงรส</b><br />
เห็ดหอมแห้ง 7 ดอก<br />
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำหรือน้ำซุปกระดูกหมู 1 ถ้วย<br />
ขิงแก่หั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว ทุบพอแตก 1 ชิ้น<br />
ต้นหอมหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว 1 ต้น<br />
เกลือป่น 1 ช้อนชา<br />
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ<br />
<br />
<b>วิธีทำเห็ดหอมปรุงรส</b><br />
1. ทำ เห็ดหอมปรุงรสโดยแช่เห็ดหอมในอ่างน้ำจนนุ่ม ตัดเอาก้านแข็งออก ล้างแล้วบีบน้ำออกให้แห้ง<br />
2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรงจนร้อน ใส่เห็ดหอมลงไปผัดพอสุกและมีกลิ่นหอม ปิดไฟ ตักเห็ดหอมใส่หม้อน้ำหรือน้ำซุปกระดูกหมู ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนใส่ขิงและต้นหอม คนให้ทั่ว ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมันหอย คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนเครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อเห็ดและน้ำแห้ง ปิดไฟ<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2012/05/blog-post_21.html"><i>สูตรก๋วยเตี๋ยว</i>เซี่ยงไฮ้เห็ดหอม</a></b><br />
1.ลวกผักกาดขาวในหม้อน้ำเดือด ด้วยไฟแรงจนสุกนุ่ม นำขึ้นทำให้สะเด็ดน้ำแล้วใส่ชาม <br />
2.ลวกก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ใส่ แล้วลวกเนื้อหมู ตับหมูและหัวใจหมู ใส่กระเพาะหมูตุ๋น เห็ดหอมปรุงรส ตัก<br />
น้ำซุปร้อน ๆใส่ โรยผักชีและพริกไทย เสิร์ฟร้อนๆ<br />
<br />komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-87271459735187885912012-05-19T17:04:00.000+07:002012-05-19T17:04:31.695+07:00สูตรเป็ดพะโล้<div>
วันนี้มีสูตรเป็ดพะโล้มาฝากสำหรับคนที่คิดจะทำก๋วยเตี๋ยวเป็ด </div>
<div>
<br /></div>
<div>
<b>ส่วนผสมสำหรับเป็ดพะโล้</b></div>
<div>
เป็ดสด (ตัวละ 2-3 กิโลกรัม) 1/2 ตัว</div>
<div>
อบเชยหักท่อนขนาด 3 นิ้ว 2 ชิ้น</div>
<div>
โป๊ยกั๊กคั่ว 5 ดอก</div>
<div>
ชวงเจียคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ</div>
<div>
พริกไทยเม็ดบุบ 1 ช้อนโต๊ะ</div>
<div>
น้ำ 16 ถ้วย ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ</div>
<div>
กระเทียมไทยทุบ 1/4 ถ้วย</div>
<div>
พริกชี้ฟ้าสีแดง 3 เม็ด</div>
<div>
รากผักชีทุบ 5 ราก</div>
<div>
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ</div>
<div>
ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ</div>
<div>
ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ</div>
<div>
เครื่องในเป็ด 1 พวง</div>
<div>
เลือดเป็ด ก้อนใหญ่ 1 ก้อน</div>
<div>
ผ้าขาวบางหรือถุงผ้าสำหรับใส่เครื่องเทศ</div>
<div>
<br /></div>
<div>
<b>วิธีทำเป็ดพะโล้</b></div>
<div style="text-align: justify;">
1. ล้างเป็ดให้สะอาด ควักมันที่ก้นออกแล้วจึงจับขาและปีกเก็บไว้ข้างตัวให้เรียบร้อย ใส่ลงลวกในหม้อ</div>
<div style="text-align: justify;">
น้ำเดือดด้วยไฟแรงเพื่อเอามันออกบางส่วน ตักขึ้นใส่หม้อ แล้วห่อเครื่องเทศด้วยผ้าขาวบาง มีอบเชย 1 ชิ้น โป๊ยกั๊ก ชวงเจียและพริกไทย มัดด้วยเซือกให้แน่น เตรียมไว้ </div>
<div style="text-align: justify;">
2. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ผงพะโล้ เครื่องเทศที่ห่อ กระเทียม พริกชี้ฟ้า รากผักชี อบเชยที่เหลือ พอเคือดปรุงรสด้วยเกลีอ ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล คนให้ทั่ว ใส่เป็ดและเครื่องใน ลดเป็นไฟอ่อน หมั่นช้อนฟองทิ้ง ต้มนานประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนเป็ดสุกนุ่ม (อย่าให้เนื้อเป็ดสุกนุ่มจนเกินไป เวลาหั่นชิ้นจะไม่น่ากิน) ตักขึ้นพักให้เย็น หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ </div>
<div style="text-align: justify;">
3. ตักแบ่งน้ำต้มเป็ดมากรองใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนร้อน ใล่เลือดเป็ดใส่เกลือเล็กน้อย ต้มจนสุกและน้ำพะโล้ซึมเข้าเลีอดเป็ด ปิดไฟ</div>
<div style="text-align: justify;">
4. ตักใส่จาน หั่นเลือดเป็ดพะโล้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เตรียมไว้</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgDHli5nFeFHEoaIsk8-5vZnDHngj2805dtlLSKgse3x6m-CLIsqZIBDQ0eBmfQuaHBnpOTd5lGASXMYUUAZZDYkZjrd0t-sE8YAkjizvmt2ZG76iC0M1GT6yPZyqYeL1M6l4CXR1arKY/s1600/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%89.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgDHli5nFeFHEoaIsk8-5vZnDHngj2805dtlLSKgse3x6m-CLIsqZIBDQ0eBmfQuaHBnpOTd5lGASXMYUUAZZDYkZjrd0t-sE8YAkjizvmt2ZG76iC0M1GT6yPZyqYeL1M6l4CXR1arKY/s320/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%89.jpg" width="218" /></a></div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-75199465535749058932012-05-19T17:00:00.001+07:002012-05-19T17:00:38.904+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยวบะหมี่แห้งหมู<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgNN0dLeE4b69qDM0nloAExlsd8a9epIIxdj7cPqGRQzrGWK070jQvwF17oaLl-7XXlWmf48VfdFRfw9ZVPIVJu9N3PpOqk-d9m-Ol1-MuNeaOgK8NQUGRc8zqbuiEiq8lX6G95cyOzdAo/s1600/%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="225" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgNN0dLeE4b69qDM0nloAExlsd8a9epIIxdj7cPqGRQzrGWK070jQvwF17oaLl-7XXlWmf48VfdFRfw9ZVPIVJu9N3PpOqk-d9m-Ol1-MuNeaOgK8NQUGRc8zqbuiEiq8lX6G95cyOzdAo/s320/%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%87.jpg" width="320" /></a></div>
<i>ก๋วยเตี๋ยวสูตร</i>นี้เป็นเมนูเอาใจคนชอบบะหมี่แห้ง นั่นคือ บะหมี่แห้งหมู ที่มีดีตรงเนื้อหมูสับที่ลวกแบบสุกพอดีๆ ได้รสชาติความหวานของเนื้อหมูอย่างเต็มที่<br />
<br />
<b>ส่วนผสมของ<i>ก๋วยเตี๋ยวสูตร</i> บะหมี่แห้งหมู </b><br />
เนื้อหมูสับติดมัน 100 กรัม<br />
น้ำปลา 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา<br />
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา<br />
บะหมี่ (ก้อนละ 50 กรัม) 2 ก้อน<br />
ผักกาดหอมหั่นท่อน 1/2 ต้น<br />
ลูกชิ้นปลา 1 ลูก<br />
ฮื่อก๊วยหั่นชิ้นบาง 1/8 เส้น<br />
เนื้อหมูส่วนสันนอกต้มหั่นชิ้นบาง 1/8 ถ้วย<br />
ไส้อ่อนหมูต้มหั่นชิ้นพอคำ 2 ชิ้น<br />
ตับหมูต้มหั่นชิ้นบาง ¼ ถ้วย<br />
ลูกชิ้นกุ้งทอด 1 ลูก ตังฉ่าย 1/8 ถ้วย<br />
กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา<br />
ต้นหอมซอย ½ ต้น ผักชีซอย ½ ต้น<br />
น้ำมันกระเทียมเจียวสำหรับคลุกเส้น<br />
เกี๊ยวทอด<br />
<br />
เครื่องปรุงรสมี น้ำตาลทราย พริกป่น<br />
พริกชี้ฟ้าสีเหลืองบดดองน้ำส้มสายชู<br />
เครื่องปรุงรสต่อ 1 ชาม<br />
น้ำปลา 1 /2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ<br />
พริกป่น 1 ช้อนชา<br />
พพริกชี้ฟาดดองนัำส้มสายชู 2 ช้อนชา<br />
<br />
<b>วิธีทำ<i>ก๋วยเตี๋ยวสูตร</i> บะหมี่แห้งหมู </b><br />
<div style="text-align: justify;">
1. หมักหมูโดยเคล้าหมูสับ น้ำปลา น้ำตาล และพริกไทย เข้าด้วยกันในอ่างผสม หลักในตู้เย็นช่องธรรมดานานประมาณ 10-20 นาที พักไว้</div>
<div style="text-align: justify;">
2. ขยุ้มบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากกันและแป้งที่ติดเส้นหลุดออกบ้าง ใส่ลงในตะแกรงแล้วลงลวกในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงโดยใช้ตะเกียบโหย่งบะหมี่จนสุก</div>
<div style="text-align: justify;">
นำขึ้นผ่านน้ำเย็นเพื่อล้างเอาแป้งที่เกาะเส้นหลุดออกอีกครั้งจนหมด นำขึ้นใส่ชาม ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน ใส่ชามที่รองด้วยผักกาดหอม ใส่ลูกชิ้นปลา ฮื่อก๊วย ลงลวกต่อจนสุกใส่ลงในชามบะหมี่ </div>
<div style="text-align: justify;">
3. ตักเนื้อหมูที่หมักใส่กระบวยเกลี่ยเป็นแผ่นบาง ใส่ลงลวกในน้ำเดือดให้สุก (แต่อย่าให้สุกมากเพราะว่าเนื้อจะแข็งด้าน) ใส่ชามบะหมี่ ตามด้วยเนื้อหมู ไส้อ่อน ตับหมู ลูกชิ้นกุ้งทอด เติมน้ำปลาน้ำตาล พริกป่น พริกชี้ฟ้าสีเหลีองบดดองน้ำส้มสายชูใส่ตังฉาย กระเทียมเจียว ต้นหอม และผักชี ใส่เกี๊ยวทอดตกแต่งเสิร์ฟร้อนๆกับเครื่องปรุงรส</div>
<br />
<br />
<br />komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-90595848747041210002012-04-06T20:13:00.000+07:002012-04-06T20:13:10.609+07:00การทำเนื้อวัวส่วนพื้นท้องต้มเปื่อย<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOoE3AkFe0f15Yq-ZDJd55pHKft100IjczP3d90hNoZqNFlFX11l2Pid1Wcv88vsaXqI2TH5W1lsUEcrrEjZvn47IH32i0xyhXPTr-5TofcU77wruJ4VG_An15Qn7fBmdHJpt24koy5kY/s1600/IMG_0009.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhOoE3AkFe0f15Yq-ZDJd55pHKft100IjczP3d90hNoZqNFlFX11l2Pid1Wcv88vsaXqI2TH5W1lsUEcrrEjZvn47IH32i0xyhXPTr-5TofcU77wruJ4VG_An15Qn7fBmdHJpt24koy5kY/s200/IMG_0009.jpg" width="165" /></a></div><div style="text-align: justify;">สูตรนี้ เมื่อทำสำเร็จแล้ว เราจะได้เนื้อเปื่อย และน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยน้ำข้น ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากน้ำซุปของการต้มเคี่ยวเนื้อเปื่อยนี่เอง สูตร ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเนื้อวัวเปื่อยมีดังนี้ </div><br />
<b>ส่วนผสม</b><br />
ข้อวัว ขนาดครึ่งกก. 1 ข้อ<br />
เนื้อพื้นท้อง ½ กก.<br />
อบเชยหักท่อนขนาด 3 นิ้ว คั่วให้หอม 1 ชิ้น<br />
โป๊ยกั๊กคั่ว 3 ดอก<br />
น้ำตาลกรวด 1 ช้อนโต๊ะ<br />
กระเทียมบุบ 2 ช้อนโต๊ะ<br />
รากผักชีทุบพอช้ำ 10 ราก<br />
พริกไทยเม็ดบุบ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
โคนต้นหอม 9 หัว<br />
น้ำ 18 ถ้วย <br />
กระเทียมดอง 3 หัว<br />
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำกระเทียมดอง ½ ถ้วย<br />
ผ้าขาวบางหรือถุงผ้าสำหรับใส่เครื่องเทศ<br />
<br />
<b>วิธีทำเนื่้อเปื่อย</b><br />
1. ทำความสะอาดข้อวัวและเนื้อวัวพื้นท้องทั้งชิ้นให้สะอาด แต่ไม่ต้องหั่น พักไว้<br />
2. ใส่เครื่องเทศคือ อบเชย โป๊ยกั๊ก น้ำตาล กระเทียม พริกไทย ลงในผ้าขาวบางหรือถุงผ้าที่เตรียมไว้ มัดด้วยเชือกให้แน่น ส่วนรากผักชีนั้นให้มัดรวมกับโคนต้นหอม<br />
<div style="text-align: justify;">3. ต้มน้ำด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่เครื่องเทศที่ห่อไว้ ใส่มัดรากผักชี กระเทียมดอง ข้อวัว เนื้อพื้นท้อง พอน้ำซุปเริ่มเดือด ก็ให้ลดเป็นไฟอ่อน ในขณะต้มต้องหมั่นช้อนฟองทิ้ง เพื่อให้น้ำใส ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำกระเทียมดอง การต้มเคี่ยวนั้นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนเนื้อเปื่อยสุกนุ่ม น้ำซุปใส และมีรสหวานกลมกล่อม ปิดไฟ</div><div><br />
</div>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-52085988862380019522012-03-22T23:28:00.000+07:002012-03-22T23:28:35.892+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยว เซี่ยงไฮ้ราดหน้าทะเล<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgNuPlehTBEqvNHSmmn7N0rKP6yPCIdqwY38cAQEUAMpxBdV5He3ybpA4ND3a5OSmm-pSHQcGudhgUxZsvYqjYgPxeh70Kkzv8zL4S7u-gjjtvQ6trSIw2P2troan6LmgPBtTB6JTnHab4/s1600/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><br />
<img alt="สูตรก๋วยเตี๋ยว เซี่ยงไฮ้ราดหน้าทะเล" border="0" height="186" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgNuPlehTBEqvNHSmmn7N0rKP6yPCIdqwY38cAQEUAMpxBdV5He3ybpA4ND3a5OSmm-pSHQcGudhgUxZsvYqjYgPxeh70Kkzv8zL4S7u-gjjtvQ6trSIw2P2troan6LmgPBtTB6JTnHab4/s320/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5.jpg" title="" width="320" /></a><i>ก๋วยเตี๋ยวสูตร</i>นี้ เป็นส่วนผสมระหว่าง 2 คนรับประทาน ซึ่งสามารถลดลงหรือเพิ่มได้ ตามปริมาณคนรับประทาน การเตรียมอาหารทะเลไว้พร้อมปรุงนั้น มีเทคนิคเล็กน้อย คือ กุ้งล้างทั้งเปลือก แล้วแกะเปลือกไม่ต้องล้างน้ำอีก ผ่าหลังแล้วดึงเอาเส้นดำออกหรือดึงเส้นดำออกแต่ไม่ต้องผ่าหลังก็ได้<br />
ส่วนปลาหมึกนั้นล้างแล้วบั้งเนื้อด้านในเป็นตารางให้สวยงาม หรือหั่นเป็นท่อนกลมๆ ก็ได้ เนื้อปูควรคัดสดใหม่ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น เตรียมไว้<br />
<br />
<b>ส่วนผสมของสูตรก๋วยเตี๋ยว เซี่ยงไฮ้ราดหน้าทะเล</b><br />
คะน้าต้นใหญ่ 1 ต้น<br />
ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ 300 กรัม<br />
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ<br />
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
กุ้งชีแฮ้ (ตัวละ 15-20 กรัม) แกะเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 10 ตัว<br />
ปลาหมึกกล้วย (200 กรัม) หั่นแว่น 1 ตัว<br />
เนื้อปูนึ่ง 1/2 ถ้วย<br />
ข้าวโพดอ่อนหั่นท่อนขนาด 1/2 นิ้วหรือครึ่งฝัก 5 ฝัก<br />
น้ำซุปกระดูกหมู 2 ถ้วย<br />
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ<br />
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา<br />
แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ<br />
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา<br />
น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อยสำหรับคลุกเส้น<br />
พริกชี้ฟ้าสีแดงและเหลืองหั่นแว่นสำหรับตกแต่ง<br />
เครื่องปรุงรส ต่างๆ เช่น พริกดอง<br />
<br />
<b>วิธีทำสูตรก๋วยเตี๋ยว เซี่ยงไฮ้ราดหน้าทะเล</b><br />
1. ล้างคะน้า ปอกเปลือกแข็งของก้านคะน้าออก แล้วหั่นเฉียง ใบคะน้าหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว ใส่อ่างผสม พักไว้<br />
2. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงสักครู่ ใส่ลงในชาม ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน เตรียมไว้<br />
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ใส่กุ้ง ปลาหมึก และเนื้อปู ผัดพอสุก ใส่ก้านคะน้า ข้าวโพดอ่อน ผัดพอทั่ว ใส่น้ำซุปกระดูกหมูปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำตาล ผัดให้ทั่ว ใส่ใบคะน้า เมื่อเดือดอีกครั้งจึงละลายแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันกับน้ำใส่ ผัดแป้งสุกใสและมีลักษณะข้น ปิดไฟ<br />
4. จัดก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ที่ลวกใส่จานหรือชาม ตักน้ำราดหน้าใส่ โรยพริกไทย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงและเหลืองหั่นแว่น เสิร์ฟร้อนๆ กับเครื่องปรุงรสkomohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-52577934849473237202011-11-06T07:57:00.001+07:002011-11-06T07:57:48.149+07:00ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgHD5_kotbCwd5H9w4m-meus5umVrnj8CnEMDuyD9j-wWBCNj2esgxSPe8OVn7j_fMnEhQq3nNePGXMc8hZbKPX1jdmaPfaW7dJi6eXf0DYfk6FOg2XKddNkvmubs3GUVK27n-jZ_lmrmg/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587_0001.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="218" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgHD5_kotbCwd5H9w4m-meus5umVrnj8CnEMDuyD9j-wWBCNj2esgxSPe8OVn7j_fMnEhQq3nNePGXMc8hZbKPX1jdmaPfaW7dJi6eXf0DYfk6FOg2XKddNkvmubs3GUVK27n-jZ_lmrmg/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587_0001.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง</td></tr>
</tbody></table><br />
<div style="text-align: justify;">วิธีทำก๋วยเตี๋ยวชนิดนี้ก่อนเสิร์ฟควรแยกน้ำ แยกเครื่อง เพื่อไม่ให้เครื่องจืดชืด และน้ำราดต้องปรุงรสให้ดี ให้มีกลิ่นหอม รสเข้มข้นเค็มหวาน</div><div style="text-align: justify;"><br />
</div><div style="text-align: justify;"><b>เครื่องปรุงและส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง</b>สำหรับ 2 คน</div><div style="text-align: justify;">1.รากผักชีหั่น 2 ราก </div><div style="text-align: justify;">2.กระเทียมไทย 20 กลีบ</div><div style="text-align: justify;">3.พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา </div><div style="text-align: justify;">4.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ</div><div style="text-align: justify;">5.หัวไช้โป็เค็มสับ ¼ ถ้วย</div><div style="text-align: justify;">6.เต้าหู้แข็งสีเหลือง (ก้อนละ 250 กรัม) หั่นชิ้นเล็กทอด 1/2 ก้อน</div><div style="text-align: justify;">7.เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนุ่มหั่นชิ้นยาว 4 ดอก</div><div style="text-align: justify;">8.น้ำซุปกระดูกหมู 1 ถ้วย</div><div style="text-align: justify;">9.ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 1/4 ช้อนชา</div><div style="text-align: justify;">10.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ</div><div style="text-align: justify;">11.ก๋วยเตี๋ยวชนิดแผ่น 300 กรัม</div><div style="text-align: justify;">12.ถั่วงอกเด็ดหางลวก 1/2 ถ้วย</div><div style="text-align: justify;">13.กุนเชียง (แท่งละ 50 กรัม) ทอดหั่นชิ้นบาง 2 แท่ง</div><div style="text-align: justify;">14.กุ้งแห้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วย</div><div style="text-align: justify;">15.ไข่พะโล้ผ่าครึ่ง 2 ฟอง</div><div style="text-align: justify;">16.กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ</div><div style="text-align: justify;">17.ต้นหอมซอย 2 ต้น ผักชีซอย 2 ต้น</div><div style="text-align: justify;">18.พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอยและใบผักชีสำหรับตกแต่ง</div><div style="text-align: justify;">19.เครื่องปรุงรสมี พริกชี้ฟ้าสีเหลืองบดดองน้ำส้มสายชู</div><div style="text-align: justify;"><br />
</div><div style="text-align: justify;"><b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/11/blog-post.html">ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง</a></b></div><div style="text-align: justify;">1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้</div><div style="text-align: justify;">2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่เครื่องที่โขลกลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่หัวไช้โป๊ เต้าหู้ทอด</div><div style="text-align: justify;">เห็ดหอม และน้ำซุปกระดูกหมู ผัดพอทั่ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และน้ำตาล ผัดพอทั่ว เคี่ยวจนกระทั่งน้ำข้นเหนียวเล็กน้อย ปิดไฟ</div><div style="text-align: justify;">3. หั่นแผ่นก๋วยเตี๋ยวเป็นเส้น แล้วนำไปนึ่งในชั้นลังถึงบนหม้อน้ำด้วยไฟกลางจนร้อน จัดใส่จานใส่ถั่วงอก กุนเชียงทอด กุ้งแห้งทอด ไข่พะโล้ ตักน้ำที่ผัดราด โรยกระเทียมเจียว ต้นหอม และผักชี ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นฝอยและใบผักชี เสิร์ฟกับเครื่องปรุงรส</div><div style="text-align: justify;"><br />
</div><div style="text-align: justify;"><br />
</div><div style="text-align: justify;"><br />
</div>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-31476789438718618552011-10-20T10:07:00.001+07:002011-10-20T10:08:35.612+07:00สูตรผัดก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทะเล<b><i>สูตร</i>ผัด<i>ก๋วยเตี๋ยว</i></b>นี้การที่จะให้อร่อย จะอยู่ที่พริกเผา ซึ่งต้องสดใหม่ มีน้ำมันสีแดงส้มลอยหน้า เนื้อน้ำพริกมีสีน้ำตาล ไม่ดำคล้ำ กลิ่นหอม ไม่หวานมาก ส่วนรสจะเผ็ดมากหรือน้อยสามารถเลือกได้ตามใจชอบ<br />
<br />
<b>ส่วนผสมและเครื่องปรุงของสูตรผัดก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทะเล</b><br />
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 500 กรัม<br />
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ<br />
กระเพาะปลาทอดชิ้นขนาดกลาง 10 ชิ้น<br />
ปลาหมึกกล้วย บั้งตาตารางหั่นชิ้นพอคำ 1 ตัว<br />
กุ้งชีแฮ้ แกะเปลือกผ่าหลังถึงเส้นดำออก 9 ตัว<br />
หอยแมลงภู่ลวกแกะเอาแต่เนื้อ 9 ตัว<br />
เนื้อปลากะพงแล่หั่นชิ้นพอคำ 200 กรัม<br />
น้ำซุปกระดูกหมู 1/2 ถ้วย<br />
น้ำปลา 2 ช้อนโด๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา<br />
ผักกาดหอมสำหรับรองจาน<br />
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบและใบผักชีสำหรับตกแต่ง<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/10/blog-post_20.html">ผัดก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทะเล</a></b><br />
1. ค ลี่เส้นก๋วยเตี๋ยวเพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นแผ่นหนา จากนั้นตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรงจนร้อนจัด ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดเร็ว ๆจนทั่วและหอมปิดไฟ ตักใส่อ่างผสม เตรียมไว้<br />
2. ตั้งกระทะบนไฟกลางจนร้อน ใส่น้ำพริกเผาลงผัดพอมีกลิ่นหอม ใส่กระเพาะปลา ปลาหมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ เนื้อปลา และน้ำซุปกระดูกหมู ผัดพอสุกทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดพอทั่ว ปิดไฟ<br />
3. ตัก เส้น<i>ก๋วยเตี๋ยว</i>ที่ ผัดใส่จานที่รอง ด้วยผักกาดหอม ตักเครื่องที่ผัดแล้วใส่ เสิร์ฟร้อน ๆ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjwwF7MBiN4auEeoIUmrmr39Xa5XCTABX0q1MSgdFGdPuEYKKFEmGkb-TJ9ZykEcn6vQ4at4BX2llAkDZNmEKhn1CJX43NmpGjf-T1nfuJMccO_Sx_Ol2qs0_s2wPL2AA2CXF1ozkcEBHI/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%258D%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="161" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjwwF7MBiN4auEeoIUmrmr39Xa5XCTABX0q1MSgdFGdPuEYKKFEmGkb-TJ9ZykEcn6vQ4at4BX2llAkDZNmEKhn1CJX43NmpGjf-T1nfuJMccO_Sx_Ol2qs0_s2wPL2AA2CXF1ozkcEBHI/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%258D%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587.jpg" width="320" /></a></div>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-37195110473665330182011-10-16T11:18:00.001+07:002011-10-16T11:19:27.072+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยว บะหมี่กระเพาะหมูน้ำใส<b>ก๋วยเตี๋ยวสูตร</b>นี้จะใช้กระเพาะหมูมาเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งลักษณะของกระเพาะหมูที่ดี คือ นุ่มแต่ไม่เปื่อย การเลือกซื้อกระเพาะหมูให้เลือกที่สดใหม่ ผิวใสเต่งตึง สีอมชมพู ไม่มีกลิ่นเหม็น เลือกขนาดกลางหรือเล็ก เนื้อกระเพาะจะแน่นหนึบ ถ้าเป็นกระเพาะขนาดใหญ่ ตุ๋นนานๆ เนื้อกระเพาะจะมีสีเข้ม แยกชั้นและเนื้อยุ่ยเละ ไม่อร่อย<br />
<br />
<b>ส่วนผสมและเครื่องปรุง<i>สูตร</i>บะหมี่กระเพาะหมูน้ำใส</b><br />
บะหมี่ (ก้อนละ 50 กรัม) 2ก้อน<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhBmrsTX-76fbtpsvD4hjSh76WIL8m96Rfbn82bDbmTINBWKk1Q3_NeQ65bR3rZXxOwu62AVTRfsa3krHekTlFudn4egAN-1BGbYai5_m0Tl1cgQbEai3SwOrb4LpqDzTSROElH1_cWpPc/s1600/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AA.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhBmrsTX-76fbtpsvD4hjSh76WIL8m96Rfbn82bDbmTINBWKk1Q3_NeQ65bR3rZXxOwu62AVTRfsa3krHekTlFudn4egAN-1BGbYai5_m0Tl1cgQbEai3SwOrb4LpqDzTSROElH1_cWpPc/s320/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B3%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AA.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">บะหมี่กระเพาะหมูน้ำใส</td></tr>
</tbody></table>ผักกาดหอมหั่น 2 ด้น<br />
กระเพาะหมูตุ๋นหั่นชิ้น 5 ชิ้น<br />
กระเทียมเจียว 1/4ถ้วย<br />
ขึ้นฉ่ายหั่นหยาบ 2 ต้น<br />
ต้นหอมซอย 3 ต้น<br />
ผักชีซอย 2 ต้น<br />
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำซุปกระดูกหมู 2 ถ้วย<br />
ตังฉ่ายเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า<br />
น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อยสำหรับคลุกเส้น<br />
เครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น น้ำส้ม น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น<br />
<b></b><br />
<b></b><br />
<b>สูตรกระเพาะหมูตุ๋น</b><br />
กระเพาะหมู อันละ 300-400 กรัม 2 อัน<br />
น้ำเปล่า 16 ถ้วย<br />
พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ<br />
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ<br />
เกลือและน้ำส้มสายชูสำหรับขยำ<br />
<br />
<b>วิธีทำกระเพาะหมูตุ๋น</b><br />
ทำกระเพาะให้สะอาดก่อนโดยล้างกระเพาะหมูด้านนอกให้สะอาด จากนั้นกลับเอาด้านในกระเพาะหมู<br />
ออกมาแล้วขยำกับเกลือและน้ำส้มสายชู ขยำจนทั่วแล้วล้างน้ำ ต้องขยำแล้วล้างหลายๆ ครั้งจนหมดเมือกจากนั้นนำไปนาบกระทะร้อนๆ ด้วยไฟกลางจนทั่ว แล้วเอามาขยำกับเกลือและน้ำส้มสายชูต่ออีก<br />
ล้างอีกจนหมดเมือก จึงกลับกระเพาะหมูให้เป็นรูปกระเพาะดังเดิม นำไปต้มในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟกลาง<br />
ใส่พริกไทยและเกลือ ลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมงหรือจนสุกนุ่ม ปิดไฟตักชิ้น หั่นเป็นชิ้นพอคำ ใส่ถ้วยพักไว้<br />
<br />
<b>วิธีทำและขั้นตอน<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/10/blog-post_16.html">ก๋วยเตี๋ยวสูตรบะหมี่กระเพาะหมูน้ำใส</a></b><br />
1. ขยุ้มบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากกันและแป้งที่เส้นหลุดออกบ้าง ใส่ลงในตะแกรงแล้วลงลวกในหม้อ<br />
น้ำเดือดด้วยไฟแรงโดยใช้ตะเกียบโหย่งบะหมี่จนสุกนำขึ้นผ่านน้ำเย็นเพื่อล้างเอาแป้งที่เกาะเส้นหลุดออกอีกครั้งจนหมด นำขึ้นใส่ชาม ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน ใส่ลงในชามหรือด้วยที่รองด้วยผักกาดหอม<br />
2.ใส่กระเพาะหมูตุ๋นลงในชามบะหมี่ ใส่ตังฉ่ายกระเทียมเจียว ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ผักชี และพริกไทย<br />
ตักน้ำซุปร้อน ๆใส่ เสิร์ฟกับเครื่องปรุงรส<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjY5YrUfj92fYVrFs3aPWZGWBPjcdt1yFN1RUW0zstzHUqOC84j6Li8hlEqm-k14tpYgUjnBIP9P5zXowcLtp_t9TTCOW6HvvYKXR5dZEPjqg7Ook2MKxfIZlQyBw8-gwsYusl0wWWot2s/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%2599.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjY5YrUfj92fYVrFs3aPWZGWBPjcdt1yFN1RUW0zstzHUqOC84j6Li8hlEqm-k14tpYgUjnBIP9P5zXowcLtp_t9TTCOW6HvvYKXR5dZEPjqg7Ook2MKxfIZlQyBw8-gwsYusl0wWWot2s/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%2599.jpg" width="274" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">กระเพาะหมูตุ๋น</td></tr>
</tbody></table>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-28942790198342251892011-10-12T09:51:00.001+07:002011-10-12T09:52:09.925+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยว หมี่กรอบราดหน้าทะเล<b>ก๋วยเตี๋ยวสูตร</b>นี้จะนำหมี่ขาวมาใช้แทนบะหมี่เหลืองที่เราพบเห็นกันทั่วๆ ไป แต่ว่าหมี่ขาวนั้นจะมีเคล็ดลับในการทำหมี่ขาวทอดกรอบเล็กน้อย คือ ถ้าใช้เส้นหมี่ขาวแห้งทอดแล้วเส้นจะฟูขาวเต็มกระทะ แต่จะกรอบไม่นาน เมื่อราดน้ำราดหน้า เส้นจะยุบตัวทันที เส้นหมี่กรอบแบบกรอบทนกรอบนานนั้นจะต้องแช่เส้นหมี่ขาวแห้งในน้ำสักครู่แล้วผึ่งพอหมาด ใส่ลงทอดเส้นจะฟูเล็กน้อย ทอดจนกรอบและเหลืองทั่ว เส้นหมี่ที่ทอดกรอบเย็นสนิทแล้ว ใส่ถุงมัดปากถุงให้สนิท เส้นหมี่จะเก็บได้นาน<br />
<br />
<b>เครื่องปรุงและส่วนผสมหมี่กรอบราดหน้าทะเล</b><br />
เส้นหมี่ชนิดแห้ง 100 กรัม<br />
น้ำมันพืช 4 ถ้วย<br />
คะน้าต้นใหญ่ 1 ต้น<br />
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
เต้าเจี้ยว 2 ช้อนชา<br />
กุ้งชีแฮ้ แกะเปลือกไม่ผ่าหลัง 6 ตัว<br />
ปลาหมึกกล้วย บั้งตารางหั่นชิ้นพอคำ 4 ชิ้น<br />
เนื้อปลากะพงแล่หั่นชิ้นพอคำ 4 ชิ้น<br />
หอยแมลงภู่ลวกแกะเอาแต่เนื้อ 15 ตัว<br />
น้ำซุปกระดูกหมูหรือไก่ 3 ถ้วย<br />
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ<br />
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำดตาลทราย 2 ช้อนชา<br />
แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ<br />
พริกไทยป่น1/2 ช้อนชา<br />
ซีอิ๊วดำเล็กน้อยสำหรับแต่งสี<br />
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียงสำหรับตกแต่ง<br />
เครื่องปรุงรสมี พริกชี้ฟ้าหั่นแว่นดองน้ำส้มสายชู<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/10/blog-post_12.html">หมี่กรอบราดหน้าทะเล</a></b><br />
1.แช่เส้นหมี่ในอ่างน้ำนานประมาณ 1 นาที สงขึ้นพักในตะแกรงให้แห้งหมาด ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรง จนร้อนจัด ใส่เส้นหมี่ลงทอดทีละน้อย ทอดจนพองฟูกรอบและเหลืองเล็กน้อย ตักขึ้นพักในตะแกรง ให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนหมด<br />
2. ล้างคะน้า ปอกเปลือกแข็งของก้านคะน้าออกแล้วหั่นเฉียง ใบคะน้าห่อนขนาด 1 นิ้ว ใส่ชามพักไว้<br />
3. ตักน้ำมันที่ทอดเส้นหมี่ออกให้เหลือประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมลงเจียวจนหอม ตามด้วยเต้าเจี้ยวผัดให้ทั่วและหมอ ใส่กุ้ง ปลาหมึก เนื้อปลากะพง และเนื้อหอยแมลงภู่ ผัดพอสุก ใส่ก้านคะน้า ผัดให้สุก ใส่น้ำซุป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรส แต่สีด้วยซีอิ๊วดำเล็กน้อย ผัดให้ทั่ว ใส่ใบคะน้า เมื่อเดือดอีกครั้ง จึงละลายแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันกับน้ำใส่ ผัดจนแป้งสุกใสและมีลักษณะข้น ปิดไฟ<br />
4. จัดเส้นหมี่ทอดใส่จานหรือชาม ตักน้ำราดหน้าใส่โรยพริกไทย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง เสิร์ฟร้อนๆ กับเครื่องปรุง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjV2WL5J9TQOCpnVxL3D3tZ5y_J3A1ZA-dPZhlD93z8-ZaiNRadp0pv_P_9uLC6HchXA4X0IIcnsICDKGCVzjBWOvKfDTQggXolsbGiGA17tzYkXT_XZzTvwZFceD2TqZF6-4fXLDvmxo4/s1600/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="183" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjV2WL5J9TQOCpnVxL3D3tZ5y_J3A1ZA-dPZhlD93z8-ZaiNRadp0pv_P_9uLC6HchXA4X0IIcnsICDKGCVzjBWOvKfDTQggXolsbGiGA17tzYkXT_XZzTvwZFceD2TqZF6-4fXLDvmxo4/s320/%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5.jpg" width="320" /></a></div>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-56851818281335875562011-10-04T07:50:00.001+07:002011-10-04T07:51:10.746+07:00ก๋วยเตี๋ยวปลาก๋วยเตี๋ยวสูตรนี้จะเน้นที่ปลาที่นำมาเป็นส่วนประกอบต้องสด ตัวใหญ่ เนื้อหนา<br />
หนังปลาเหนียวหนึบ เนื้อปลาต้องสด สีขาว ไม่มีกลิ่นคาว จะต้องแล่และหั่นเนื้อปลาด้วยมีดคมๆ<br />
เนื้อปลาจะไม่ช้ำ เลือดในเนื้อปลาจะไม่ไหลออกมา แล้วซับน้ำให้แห้งอีกครั้ง เนื้อปลาจึงไม่มีกลิ่นคาว<br />
เมื่อยังไม่ใช้ก็เก็บไว้ในตู้เย็นหรือใส่ลังน้ำแข็ง<br />
<br />
เครื่องปรุงและส่วนผสมของ<b>ก๋วยเตี๋ยวปลา</b><br />
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือเส้นใหญ่ หรือบะหมี่หรือเส้นหมี่แช่น้ำจนนุ่ม 250 กรัม<br />
ถั่วงอกเด็ดหาง 100 กรัม<br />
เนื้อปลากะพงขาวแล่หั่นชิ้นพอคำ 200 กรัม<br />
ปลาหมึกกล้วย บั้งตาตารางหั่นชิ้นพอคำ 1 ตัว<br />
ขึ้นฉ่ายหั่นหยาบ 1 ต้น<br />
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา<br />
น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวปลา 3 ถ้วย<br />
เครื่องปรุงรสมี น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ข่าป่น<br />
<br />
วิธีทำ<b>ก๋วยเตี๋ยวปลา</b><br />
1. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวและถั่วงอกพร้อมกันในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงจนสุก ใส่ลงในชาม<br />
2. ลวกเนื้อปลาและปลาหมึกใส่ชามก๋วยเตี๋ยวใส่ขื้นฉ่าย พริกไทย ตักน้ำซุป<b><a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/10/blog-post.html">ก๋วยเตี้ยวปลา</a></b>ร้อน ๆใส่<br />
ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีเหลืองหั่นแฉลบ เสิร์ฟร้อน ๆกับเครื่องปรุงรส<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj45wiXHu6F3WUHxVPwtlRQ3VcuoMJf_M1wDyrBJzk8UnFv6qzkCgNSX1J5KgrmMy8z4Xo_gpTAfd4k4k7VEq94LXd4EQ2wPAfmiHILiOHr9g_nwA8Xs4wVJOWleQHHSIuvdBWWg8GDQ-U/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="178" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj45wiXHu6F3WUHxVPwtlRQ3VcuoMJf_M1wDyrBJzk8UnFv6qzkCgNSX1J5KgrmMy8z4Xo_gpTAfd4k4k7VEq94LXd4EQ2wPAfmiHILiOHr9g_nwA8Xs4wVJOWleQHHSIuvdBWWg8GDQ-U/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="font-size: small;">ก๋วยเตี๋ยวปลา </span></td></tr>
</tbody></table>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-84469527397917654882011-09-15T06:42:00.001+07:002011-09-15T06:42:56.357+07:00บะหมี่ราดหน้าไก่<b>เครื่องปรุงและส่วนผสมบะหมี่ราดหน้าไก่ </b><br />
เนื้ออกไก่หั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม<br />
เครื่องในไก่หั่นชิ้น 1 พวง<br />
ซีอิ๊วขาว 3 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา<br />
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา<br />
บะหมี่ (ก้อนละ 50 กรัม) 6 ก้อน<br />
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ<br />
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 1/2 หัว<br />
แครอทหั่นแท่งยาว 1/2 ถ้วย<br />
ถั่วลันเตา 8 ฝัก<br />
เห็ดฟาง 10ดอก<br />
น้ำซุปไก่ 2 ½ ถ้วย<br />
แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 2 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ<br />
ต้นหอมหั่นท่อนขนาด 1/2 นิ้ว 2 ถ้วย<br />
น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อยสำหรับดลุกเส้น<br />
เครื่องปรุงรสมี พริกชี้ฟ้าหั่นแว่นดองน้ำส้มสายชู<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/09/blog-post_15.html">บะหมี่ราดหน้าไก่</a> </b><br />
1. หมักไก่โดยเคล้าเนื้อไก่และเครื่องในไก่กับขีอิ๊วขาว1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล1 ช้อนชา และพริกไทย 1/2 ช้อนชาเข้าด้วยกันในชาม หลักในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 20-30นาที<br />
2. ขยุ้มบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากกันและแป้งที่เส้นหลุดออกบ้าง ใส่ลงในตะแกรงแล้วลงลวกในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงโดยใช้ตะเกียบใหย่งบะหมี่จนสุก นำขึ้นผ่านน้ำเย็นเพื่อล้างเอาแป้งที่เกาะเส้นหลุดออกอีกครั้งจนหมด แล้วนำลงลึกอีกครั้ง นำขึ้นใส่ชามบะหมี่ ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน<br />
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ตามด้วยเนื้อไก่และเครื่องในที่หมักผัดพอสุก ใส่หอมใหญ่ แครอท ถั่วลันเตา เห็ดฟาง และน้ำซุปไก่ จัดให้ทั่ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลที่เหลือเมื่อเดือดอีกครั้งจึงละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำใส่ ผัดจนแป้งสุกใสและมีลักษณะข้น ปิดไฟ<br />
4. ตักบะหมี่ที่ลวกใส่จานหรือชาม ตักน้ำราดหน้าใส่โรยต้นหอม พริกไทยที่เหลือ เสิร์ฟร้อน ๆกับเครื่องปรุงรส<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi1RqFR8qQxhuwpR4tkasEfsB2qNZq1Yfug2_pSvlnRffzwb5psV00bFEkwnXZfScp9ZgUKRpcHsIvcJ5P-6vtoF-zbKQVUNR-Mzuk6jGf91RVcUmQxegJM9SKnr_SRcWRzG22qnVrNMFM/s1600/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="165" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi1RqFR8qQxhuwpR4tkasEfsB2qNZq1Yfug2_pSvlnRffzwb5psV00bFEkwnXZfScp9ZgUKRpcHsIvcJ5P-6vtoF-zbKQVUNR-Mzuk6jGf91RVcUmQxegJM9SKnr_SRcWRzG22qnVrNMFM/s200/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">บะหมี่ราดหน้าไก่ </td></tr>
</tbody></table>komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-27330575490336108542011-09-11T10:47:00.001+07:002011-09-11T10:47:50.285+07:00สูตรก๋วยเตี๋ยว บะหมี่จับกัง<b>สูตรก๋วยเตี๋ยว</b> ครั้งนี้ขอนำเสนอบะหมี่จับกัง ซึ่งบะหมี่จับกังจะเน้นปริมาณบะหมี่ที่มาก ใส่ทั้งไก่ตุ๋น หมูแดง และผักกวางตุ้งที่ลวกสุก เพิ่มรสชาติด้วยการราดน้ำหมูแดง น้ำไก่ตุ๋นเสียหน่อย ก็อร่อยดี รสชาติจะออกเปรี้ยว เค็ม หวาน<br />
<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; margin-left: 1em; text-align: right;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicqcjWaH7TGe31pKj7b3fglARhTLISWJ98I8i2oGk20ixHLCjm9XFpFzb6BXUVZeJVKuo5wUsfaZrq9vlw8hZxBaDjJJsO721CTF49W_CygucQUqeRU2WGQVI8ynpwEqWq2GQFczx47Fo/s1600/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="123" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEicqcjWaH7TGe31pKj7b3fglARhTLISWJ98I8i2oGk20ixHLCjm9XFpFzb6BXUVZeJVKuo5wUsfaZrq9vlw8hZxBaDjJJsO721CTF49W_CygucQUqeRU2WGQVI8ynpwEqWq2GQFczx47Fo/s200/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">บะหมี่จับกัง</td></tr>
</tbody></table><br />
ส่วนผสมและเครื่องปรุง <b>สูตรก๋วยเตี๋ยว </b>บะหมี่จับกัง<br />
บะหมี่ (ก้อนละ 50 กรัม) 2 ก้อน<br />
ผักกวางตุ้งหั่นท่อนขนาด 2 นิ้ว 1/2 ถ้วย<br />
หมูแดงหั่นชิ้นบาง 10 ชิ้น<br />
ไก่ตุ๋น 5 ชิ้น<br />
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ<br />
กระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย<br />
น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อยสำหรับคลุกเส้น<br />
เครื่องปรุงรสมี น้ำตาลทราย พริกชี้ฟ้าหั่นแว่นดองน้ำส้มสายชู<br />
พริกป่น<br />
<br />
วิธีทำ <b>สูตรก๋วยเตี๋ยว</b> บะหมี่จับกัง<br />
1. ขยุ้มบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากกันและแป้งที่เส้นหลุดออกบ้าง ใส่ลงในตะแกรงแล้วลงลวกในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงโดยใช้ตะเกียบโหย่งบะหมี่จนสุกนำขึ้นผ่านน้ำเย็นเพื่อล้างเอาแป้งที่เกาะเส้นหลุดออก<br />
อีกครั้งจนหมด แล้วนำไปลวกอีกครั้ง นำขึ้นใส่ชามใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย คลุกให้ทั่วเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน ใส่ผักกวางตุ้งลงลวกต่อจนสุก ใส่ลงในชามบะหมี่<br />
2.ใส่หมูแดงและไก่ตุ๋นลงในชามบะหมี่ ตักน้ำหมูแดงและน้ำไก่ตุ๋นใส่เล็กน้อย เติมซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา ใส่กระเทียมเจียว เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/09/blog-post_11.html">บะหมี่จับกัง</a>กับเครื่องปรุงรสkomohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-23977144865347112092011-09-03T14:35:00.001+07:002011-09-03T14:36:08.858+07:00สูตรโกยซีหมี่<table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: right; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0liIQKP43VEixn9W-9y8ecLLwJYanqbIzRyNgSsWWqElK9ViaUy8ADHOZB1FDl9Ee6j32l4w44nKixSKcLdyeQBlnv1VkvMrqfHqhe7ceBrRPwxgjeaLmjuqOi2B7WXLnP5XI5M0AClA/s1600/%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="183" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0liIQKP43VEixn9W-9y8ecLLwJYanqbIzRyNgSsWWqElK9ViaUy8ADHOZB1FDl9Ee6j32l4w44nKixSKcLdyeQBlnv1VkvMrqfHqhe7ceBrRPwxgjeaLmjuqOi2B7WXLnP5XI5M0AClA/s200/%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="font-size: small;">โกยซี่หมี่</span></td></tr>
</tbody></table><br />
<b>สูตร</b>โกยซี่หมี่จะนำหน่อไม้มาเป็นส่วนผสม ซึ่งถ้าเป็นหน่อไม้ปี๊บก็มักจะมีรสเปรี้ยวอมอยู่ด้วย ดังนั้นก่อนนำมาใช้จะต้องนำไปต้มกับน้ำแล้วใส่น้ำตาลปี๊บลงไปซักก้อน ต้มไว้สักครู่ ส่วนแป้งมันฮ่องกงจะทำให้น้ำราดข้นใส ไม่คืนตัว ต้องละลายกับน้ำก่อน แล้วค่อยๆ เทใส่ลงในอาหารที่ผัดอยู่บนไฟ จะได้ความข้นตามต้องการ แป้งมันฮ่องกงมีขายที่ร้านขายแป้งแถวถนนนเยาวราช ตรงหัวถนนมังกร<br />
ส่วนผสมและเครื่องปรุงของโกยซีหมี่<br />
<br />
ส่วนผสมและเครื่องปรุงของ<b>สูตร</b>โกยซีหมี่<br />
น้ำมันพืช 3 ถ้วย<br />
บะหมี่ (ก้อนละ 50 กรัม) 4 ก้อน<br />
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา<br />
หน่อไม้ไผ่ตงสด หรือหน่อไม้ปี๊บต้มหั่นเส้น 1 ถ้วย<br />
เห็ดฟางผ่าครึ่ง 5 ดอก<br />
เนื้ออกไก่ต้มอีกเป็นชิ้นฝอย 300 กรัม<br />
น้ำซุปกระดูกหมู 1 ½ ถ้วย<br />
ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา<br />
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา<br />
กุยช่ายขาวหั่นท่อนขนาด 2 นิ้ว 50 กรัม<br />
แป้งมันฮ่องกงหรือแป้งข้าวโพด 1 1/2 ช้อนโด๊ะ<br />
น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ<br />
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา<br />
ซีอิ๊วดำเล็กน้อยสำหรับแต่งสี<br />
ใบผักชีและพริกชีฟ้าสีแดงหั่นแฉลบสำหรับตกแต่ง<br />
<br />
วิธี<b>สูตร</b>ทำโกยซีหมี่<br />
1. ตั้ง ก ระ ท ะน้ำ มั นบ นไฟ ก ลา ง ค่ อ นข้าง อ่ อ นจนร้อน ขยุ้มบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากกันและฟู แล้วใส่ลงทอดทีละน้อยจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนหมด<br />
2. ตักน้ำมันที่ทอดบะหมี่ออกให้เหลือ 3 ช้อนโต๊ะใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ตามต้วยหน่อไม้เห็ดฟาง จัดให้ทั่ว ใส่เนื้ออกไก่ต้มฉีก น้ำซุปกระดูกหมูผัดพอทั่ว ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำตาลและแต่งสีด้วยซีอิ๊วดำเล็กน้อย คนให้เข้ากันทั่ว ใส่กุยช่ายขาว เมื่อเดือดอีกครั้งจึงละลายแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดกับน้ำใส่ จัดจนแป้งสุกใสและมีลักษณะข้นปิดไฟ<br />
3. จัดบะหมี่ทอดใส่ถ้วยหรือชาม ตักน้ำราดหน้าใสโรยพริกไทย ตกแต่งด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ เสิร์ฟ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/09/blog-post.html">โกยซี่หมี่</a>ร้อนๆ<br />
<br />
<br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-72008684363987095972011-08-27T21:53:00.004+07:002011-08-27T21:54:41.585+07:00ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากะพง<b>ก๋วยเตี๋ย</b>วราดหน้าปลากะพงสูตรนี้ใช้ขิงอ่อนช่วยแต่งกลิ่นรส และช่วยดับกลิ่นคาวปลา เพิ่มความเผ็ดร้อน น้ำราดหน้าจึงมีรสเข้มขัน การเลือกซื้อขิงอ่อนนั้นเลือกขิงอ่อนเปลือกสดไม่เหี่ยว มีน้ำชุ่มอยู่ในเนื้อ เวลาปอกหรือหั่นต้องใช้มีคมปลายแหลม เพราะขิงมีเส้นใยสูงและแง่งมีความโค้งงอ ซื้อในปริมาณที่พอเหมาะ หากเก็บไว้นานน้ำในขิงจะระเหย เนื้อขิงจะแห้งหยาบ กลิ่นไม่หอม<br />
<br />
เครื่องปรุงและส่วนผสมของ<b>ก๋วยเตี๋ยว</b>ราดหน้าปลากะพง<br />
น้ำมันพืช 2 ถ้วย+2 ช้อนโด๊ะ<br />
เนื้อปลากะพงแล่หั่นชิ้นพอคำ 100 กรัม<br />
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 300 กรัม<br />
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
ขิงอ่อนซอย 2 ช้อนโต๊ะ<br />
เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโด๊ะ<br />
น้ำซุปกระดูกหมูหรือไก่ 2 ถ้วย<br />
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโด๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา<br />
แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 1 ½ ช้อนโด๊ะ<br />
น้ำ 2 ช้อนโด๊ะ<br />
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว ½ ถ้วย<br />
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา<br />
ซีอิ๊วดำเล็กน้อย<br />
ยอดขึ้นฉ่ายและพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแว่น<br />
<br />
<br />
วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/08/blog-post_27.html"><b>ก๋วยเตี๋ยว</b>ราดหน้าปลากะพง</a><br />
1. ตั้งกระทะด้วยไฟปานกลาง ใส่น้ำมัน 2 ถ้วย รอจนร้อนจัดใส่เนื้อปลากะพงลงทอด เร่งเป็นไฟแรง ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน<br />
2. คลี่เส้นก๋วยเตี๋ยวในอ่างผสมเพื่อไม่ให้เส้นจับกันเป็นแผ่นหนา ใส่ซีอิ๊วดำ คลุกเคล้าจนเส้นเป็นสีน้ำตาลทั่ว จากนั้นตั้งกระทะน้ำมันที่เหลือบนไฟแรง จนร้อนจัด ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดเร็วๆ จนทั่วและหอม ปิดไฟ ตักใส่จาน<br />
3. ตักน้ำมันที่ทอดปลาออกให้เหลือประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมเจียวลงเจียวจนหอม ตามด้วยขิงอ่อน เต้าเจี้ยว ผัดให้ทั่วและหอม ใส่เนื้อปลาที่ทอดผัดพอทั่ว ใส่น้ำซุปกระดูกหมู ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาล ผัดให้ทั่ว เมื่อเดือดอีกครั้งจึงละลายแป้งข้าวโพด หรือแป้งมันกับน้ำใส่ ผัดจนแป้งสุกใส และมีลักษณะข้น ใส่ขึ้นฉ่าย ปิดไฟ<br />
4. ตักเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผัดใส่จานหรือชาม ตักน้ำราดหน้าใส่ โรยพริกไทย ตกแต่งด้วยยอดขึ้นฉ่ายและพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแว่น เสิร์ฟร้อนๆ<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjI4D_W1COkFI4m42xC3qckp9N1A_t4qMYwlDiFE6BLx9LOewx-FAqhHKWVSYhwsEx2P_eXtKI4hvnZ5cg9shXP88N2Ggjxk8UbunfXMn1ydVD44Sz_S9VBAL0xNBobLwz_Eu5IP0nvUYc/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากะพง" border="0" height="153" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjI4D_W1COkFI4m42xC3qckp9N1A_t4qMYwlDiFE6BLx9LOewx-FAqhHKWVSYhwsEx2P_eXtKI4hvnZ5cg9shXP88N2Ggjxk8UbunfXMn1ydVD44Sz_S9VBAL0xNBobLwz_Eu5IP0nvUYc/s200/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2587.jpg" width="200" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="font-size: x-small;">ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากะพง</span></td></tr>
</tbody></table><br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-5644456187360219182011-08-25T14:47:00.001+07:002011-08-25T14:48:33.534+07:00ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ขี้เมากุ้งการทำน้ำพริกขี้เมาสำหรับก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ขี้เมากุ้งนั้น ต้องเลือกใช้พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็กรสจะเผ็ด กลิ่นหอม เลือกขั้วเขียวสด ถ้าเป็นแบบเด็ดขั้วขายให้เลือกส่วนหัวที่ยังขาวอยู่ เพราะแสดงว่าเป็นพริกที่เพิ่งเด็ดขั้วไปใหม่ กระเทียมต้องเป็นกระเทียมไทยกลีบเล็ก แห้งเวลาโขลกพริกกับกระเทียมใส่เกลือเล็กน้อย ช่วยให้ไม่กระเด็น<br />
และไม่เหม็นเขียวพริกด้วย<br />
<br />
<b>ส่วนผสมของก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ขี้เมากุ้ง</b><br />
พริกขี้หนูสีเขียวและเเดง 15-20 เม็ด<br />
กระเทียมไทย 15 กลีบ<br />
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ<br />
กุ้งชีแฮ้ <br />
แกะเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 10 ตัว<br />
ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ 300 กรัม<br />
น้ำซุปกระดูกหมูหรือไก่ 1/4 ถ้วย<br />
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ<br />
ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนชา<br />
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ<br />
ถั่วฝักยาวหั่นเฉียง 3 ฝัก<br />
กะเพราเด็ดใบ 1/2 ถ้วย<br />
ยอดกะเพราสำหรับตกแต่ง<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/08/blog-post_25.html">ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ขี้เมากุ้ง</a></b><br />
1.โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียมเข้าด้วยกันพอหยาบตักใส่ถ้วย พักไว้<br />
2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่เครื่องที่โขลกลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่กุ้ง ผัดพอสุก จากนั้น<br />
ลวกเส้นเซี่ยงไฮ้ในหม้อน้ำเดีอดด้วยไฟแรงสักครู่ ตักขึ้นใส่ลงในกระทะ ใส่น้ำขุป จัดให้ทั่วและมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ แสะน้ำตาล ผัดให้ทั่ว ใส่ถั่วฝักยาวและใบกะเพรา ผัตพอสุก ปิดไฟ<br />
3. ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยยอดกะเพรา เสิร์ฟร้อนๆ<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLR-cYjM8lul7mfOg0r3AFuRhD9kOUB_ZSRWnA9YWRCG1fnRKxelWMvPnxLnifgKPKx8wwC9gIGW_yxcilpkc5qCxnGuT1n0mdCiOFFLi9rYBorTgXF_nDeiysc1oZVis1ALFJ1wiH-Bs/s1600/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25AE%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img alt="ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ขี้เมากุ้ง" border="0" height="165" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLR-cYjM8lul7mfOg0r3AFuRhD9kOUB_ZSRWnA9YWRCG1fnRKxelWMvPnxLnifgKPKx8wwC9gIGW_yxcilpkc5qCxnGuT1n0mdCiOFFLi9rYBorTgXF_nDeiysc1oZVis1ALFJ1wiH-Bs/s320/%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258B%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25AE%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ขี้เมากุ้ง</td></tr>
</tbody></table><br />
<br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-73448105201653209342011-08-19T13:36:00.001+07:002011-08-19T13:36:47.864+07:00บะหมี่กรอบราดหน้าปูบะหมี่กรอบราดหน้าปูเป็นราดหน้าสไตล์จีนมีรสเค็มหวานกลมกล่อม ได้กลิ่นหอมจากเหล้าจีน ซึ่งเคล็ดลับเวลาใส่นั้น ให้ใส่เป็นอันดับสุดท้าย และเหล้าจีนที่นิยมใช้กันคือ เหล้าจีนตราเจดีย์<br />
<br />
<b>ส่วนผสมของบะหมี่กรอบราดหน้าปู</b><br />
น้ำมันพืช 3 ถ้วย<br />
บะหมี่ (ก้อนละ 50 กรัม) 4 ก้อน<br />
เห็ดหอมแห้ง 4 ดอก<br />
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ<br />
หน่อไม้ไผ่ตงต้มสุกหั่นเส้น 50 กรัม<br />
เนื้อปูนึ่ง 1 ถ้วย<br />
ผักกวางตุ้งหั่นท่อนขนาด 1 /2 นิ้ว 1 ต้น<br />
น้ำซุปกระดูกหมู 3 ถ้วย<br />
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ+2 ช้อนชา<br />
ซีอิ๊วขาว 2 ชัอนโต๊ะ<br />
น้ำตาลทราย 1 ชัอนโต๊ะ<br />
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา<br />
เหล้าจีน 2 ช้อนชา<br />
แป้งข้าวโพดหรือแป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ<br />
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ<br />
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา<br />
ซีอิ๊วดำเล็กน้อย<br />
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอยสำหรับตกแต่ง<br />
เครื่องปรุงรสมี พริกชี้ฟ้าหั่นแว่นดองน้ำส้มสายชู<br />
<br />
<b>วิธีทำ<a href="http://noodle-thai.blogspot.com/2011/08/blog-post.html">บะหมี่กรอบราดหน้าปู</a></b><br />
1. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางค่อนข้างอ่อนจนร้อน ขยุ้มเส้นบะหมี่ให้เส้นคลี่ออกจากันและฟู แล้วใส่ลงทอดทีละน้อยจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดจนหมด<br />
2. แช่เห็ดหอมในอ่างน้ำจนนุ่ม แล้วหั่นเป็นชิ้นยาว ใส่ถ้วย พักไว้<br />
3.ตักน้ำมันที่ทอดบะหมี่ออกให้เหลือประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียมลงเจียวจนเหลืองหอม ตามด้วย หน่อไม้ เห็ดหอม ผัดให้ทั่ว ใส่เนื้อปู แบ่งเนื้อไว้โรยหน้าเล็กน้อย ผัดพอทั่ว ใส่ผักกวางตุ้ง น้ำซุปกระดูกหมูปรุงรสตามชอบ ใส่เหล้าจีน คนให้เข้ากัน เมื่อเดือดอีกครั้งจึงละลายแป้งข้าวโพดหรือหรือแป้งมันกับน้ำ ผัดจนแป้งสุกใส และมีลักษณะข้น ปิดไฟ<br />
4.จัดบะหมี่กรอบใส่ถ้วยหรือชาม ตักน้ำราดหน้าใส่ โรยพริกไทย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่น<span class="Apple-tab-span" style="white-space: pre;"> </span>เสิร์ฟบะหมี่กรอบราดหน้าปู ร้อนๆ กับเครื่องปรุงรส<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhmq5fQW25OLDSDmdof3dHJLNYnuFR2UXKrn-pxjxo0i-4v1STdU4D2sI9io_4B3hWPqQmyObPnU5L7pJHpaesAoEh7tenscnj0VBbkRz2ti-BOAEO9LCT4EipPS4c2wtwrEyeL_zEiCT0/s1600/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="170" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhmq5fQW25OLDSDmdof3dHJLNYnuFR2UXKrn-pxjxo0i-4v1STdU4D2sI9io_4B3hWPqQmyObPnU5L7pJHpaesAoEh7tenscnj0VBbkRz2ti-BOAEO9LCT4EipPS4c2wtwrEyeL_zEiCT0/s320/%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9.jpg" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;"><span class="Apple-style-span" style="font-size: small;">บะหมี่กรอบราดหน้าปู</span></td></tr>
</tbody></table><br />
<br />
komohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1740651521317354795.post-56101133269489942892011-07-29T14:25:00.000+07:002011-07-29T14:25:02.559+07:00ก๋วยเตี๋ยวหมู<strong><em>ก๋วยเตี๋ยวหมู</em></strong>นั้นคาดว่ามีความเป็นมาเก่าแก่มาก โดยชาวจีนนั่นเอง ก่อนที่จะมีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวไก่<br />
<br />
<br />
<strong><em>ก๋วยเตี๋ยวหมู</em></strong>นั้นจะปรุงเป็นเส้นใหญ่หรือเส้นเล็กก็ได้ทั้งนั้นจะปรุงเป็นเส้นบะหมี่หรือเส้นปลาก็ได้ น้ำซุปก็เป็นเช่นเดียวกันกับน้ำซุปที่ใช้กับ<strong><em>ก๋วยเตี๋ยวหมู</em></strong>นั่นเอง การปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูนี้ สามารถปรุงได้อย่างรวดเร็วมาก ทดลองทำตามได้ดังนี้<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhc8GwQssN8tWCKgzEC1hTmRDRxY3_Mp_fOdKlnDm_WVfjlMKSLcv6J52-EmGp5PCSL2U13uClKrWhj5VusEHVLcQLTgwXz4pE5Cg9WL99S7EW1xKJOr1SuB5Y36DtpxPJpbOiqWIPdWyo/s1600/4_1256865039.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhc8GwQssN8tWCKgzEC1hTmRDRxY3_Mp_fOdKlnDm_WVfjlMKSLcv6J52-EmGp5PCSL2U13uClKrWhj5VusEHVLcQLTgwXz4pE5Cg9WL99S7EW1xKJOr1SuB5Y36DtpxPJpbOiqWIPdWyo/s320/4_1256865039.jpg" t$="true" width="320" /></a></div><br />
ภาพจาก healthcorners.com<br />
<br />
<strong>ส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวหมู</strong><br />
<br />
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 1 ห่อ<br />
<br />
หมูบะช่อปรุงรสลวกเป็นแผ่นแบนๆ 1 แผ่น<br />
<br />
เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้น ลูกให้สุก4-5 ชิ้น<br />
<br />
ตับหมูหั่นเป็นลวกให้สุก 3 ชิ้น<br />
<br />
กุ้งแห้งตัวเล็กไม่ใส่สี นิดหน่อย<br />
<br />
ตังฉ่าย 1 ช้อนชา<br />
<br />
เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง 1 ช้อนชา<br />
<br />
น้ำปลาดี 1/2 ช้อนชา<br />
<br />
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา<br />
<br />
กระเทียมเจียว 2 ช้อนชา<br />
<br />
ถั่ว งอก ดิบ ต้นหอม ผักชีพริกไทยป่น<br />
<br />
ยอดตำลึงอ่อน <br />
<br />
แครอตหั่นเป็นเส้นบางๆ 1 ช้อนชา<br />
<br />
<br />
<br />
<strong>วิธีปรุงก๋วยเตี๋ยวหมู</strong><br />
<br />
1.ก่อนอื่นให้จัดการลวกผักที่เอามาปรุงก๋วยเตี๋ยวหมูนี้เสียก่อนลวกแล้วใส่ลงไปในชามก๋วยเตี๋ยว เตรียมไว้แล้ว<br />
<br />
2.ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว จะเลือกใช้เส้นอะไรก็ตามแต่ใส่ลงไปซ้อนกับผักต่างๆ ที่ลูกไว้ จากนั้นเอาหมูบะช่อมาทาลงในทัพพี แช่ลงไปในน้ำเดือดทีเป็นน้ำซุป เอามาวางบนเส้นก๋วยเตี๋ยวข้างหนึ่ง<br />
<br />
3.ลวกเเนื้อหมูสดวางลง ลวกตับหมูสดวางลงอีกบนเส้นก๋วยเตี๋ยว<br />
<br />
4.ใส่กุ้งแห้ง ตังฉ่าย น้ำปลา ซีอิ๊วขาว เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง ตักน้ำซุปราดลงไปในปริมาณที่<br />
<br />
พอดี ใส่กระเทียมเจียวลงไป โรยพริกไทย ใส่ต้นหอม ผักชี เสิร์ฟกำลงร้อนๆได้ทันทีkomohttp://www.blogger.com/profile/07387315637660790341noreply@blogger.com0